Getting your Trinity Audio player ready...

เตรียมร้อง “ผู้ตรวจการแผ่นดิน ศาลปกครอง ป.ป.ช.” เอาผิด ส.ท.พวกมากลากไป ใช้อำนาจมิชอบ ต่อรอง 20-30%  ระบบผลิตน้ำประปาท่าเสา บนความเดือดร้อนของชาวบ้าน ถามหาจิตสำนึกมีไหม!  ผู้ว่าฯ ต้องไม่นิ่งดูดายนำโครงการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ลงมาแก้ไขปัญหา “ปลาตายน้ำตื้น” อับอายไปทั่วประเทศ หากเห็นคลิปอภิปรายในสภาฯ ครั้งแรกในรอบ 16 ปี ยกฐานะจาก อ.บ.ต.เป็นเทศบาล ได้เห็นพฤติกรรมนักการเมืองที่เลือกเข้าไป ความเกียจชังส่วนตัวมาเล่นกันในสภา บนความเดือดร้อนของประชาชนผูกติดไปด้วย ใช้สมองส่วนไหนคิด!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมสภาเทศบาลตำบลท่าเสา อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา มีการประชุมสภาเทศบาลตำบลท่าเสา สมัยสามัญ สมัยที่2 ครั้งที่ 1/2567 นางชุติมา  อาจณรงค์กร นายกเทศมนตรีตำบลท่าเสา ได้เสนอญัตติ เรื่องการขออนุมัติใช้จ่ายเงินสะสมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จากกองช่าง จำนวน 7 รายการ ด้วยงบประมาณ 52,140,000 บาท เพื่อแก้ไขปัญหาและบำบัดความเดือดร้อนของประชาชนในท้องถิ่นอย่างเร่งด่วน ในด้านการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ตำบลท่าเสา ซึ่งเทศบาลตำบลท่าเสา ไม่ได้ตั้งงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เพื่อให้เป็นไปตามภารกิจและอำนาจหน้าที่ ตลอดจนนโยบายที่กำหนดเอาไว้ตามแผนพัฒนาของเทศบาลตำบลท่าเสาในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ซึ่งจะต้องดำเนินการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ไม่อาจรอจัดทำเป็นงบประมาณร่ายจ่ายประจำปีต่อไปได้ เพราะจะทำให้ปัญหาความเดือดร้อนทวีความรุนแรงมากขึ้นและไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านทางเพจเฟชบุ๊คของเทศบาลตำบลท่าเสา https://www.facebook.com/share/v/CPeHmP6DZpQCZNsi/ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี ที่ได้รับการยกฐานะจากองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเสาเป็นเทศบาลตำบลท่าเสา ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2551 ครอบคลุมการปกครองจำนวน 10 หมู่บ้าน ประกอบด้วย 1.บ้านคลองห้วยไผ่ 2.บ้านหนองบัว 3.บ้านหนองผา-นาโปร่ง 4.บ้านหนองคำฮ้อย 5.บ้านม่อนดินแดง 6.บ้านบนดง 7.บ้านดงตะขบ 8.บ้านดงตะขบ 9.บ้านหนองหิน 10.บ้านม่อนดินแดง

โดย นายทองสุข  ทะมา ประธานสภาเทศบาลตำบลท่าเสา ได้อนุญาตให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภาในครั้งนี้ ตามที่ นางสุมลทา บัวงาม ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณ นำเสนอต่อประธานสภาให้รับทราบว่า การประชุมสภาครั้งนี้ เป็นที่สนใจของประชาชนในเขตเทศบาลตำบลท่าเสาเป็นจำนวนมาก ประชาชนเรียกร้องให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภา เนื่องด้วยเป็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมรับฟังในสภาหรือบริเวณด้านนอกของสภา พร้อมเปิดโอกาสให้ตัวแทนชาวบ้านจาก 10 หมู่บ้าน เข้าร่วมสังเกตการณ์และรับฟังการประชุมสภาฯภายในห้องประชุมสภาครั้งนี้ด้วย สร้างความดีใจให้กับชาวตำบลท่าเสาอย่างมาก ที่เปิดกว้างให้ประชาชนได้รับรู้การอภิปรายในสภาโดยเฉพาะ พฤติกรรม ส.ท.ที่ชาวบ้านลงคะแนนเสียงเลือกเข้าไปในสภา ทำหน้าที่อย่างไรบ้างที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมกับตำบลท่าเสา

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ไกรสิทธิ พรหมปฏิมา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ จำนวนกว่า 10 คน เฝ้าสังเกตการณ์และดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่มาฟังการประชุมสภาฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายความมั่นคงภายในจังหวัดอุตรดิตถ์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองอุตรดิตถ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการที่ประชาชนให้ความสำคัญมากเป็นอันดับต้นคือ การก่อสร้างโรงสูบน้ำดิบจากแม่น้ำน่านพร้อมท่อส่งน้ำดิบไปยังระบบผลิตน้ำประปาหนองช้างเพรียง ด้วยงบประมาณ 22,000,000 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำดิบนำมาผลิตน้ำประปา เพื่อจ่ายให้ประชาชนผู้ใช้น้ำ จำนวน 1,402 ราย ได้มีน้ำใช้อุปโภคบริโภค เนื่องจากที่ผ่านมาเทศบาลท่าเสาไม่มีแหล่งน้ำดิบต้องอาศัยน้ำจากธรรมชาติหรือน้ำฝนเป็นหลัก ไม่พอเพียงต่อความต้องด้านการอุปโภคบริโภค ส่งผลกระทบทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเกือบ 10 หมู่บ้าน และทำให้ต้องซื้อน้ำประปาราคาแพงจากทางเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์เป็นประจำทุกปี ทำให้ทางเทศบาลตำบลท่าเสาสูญเสียงบประมาณปีละกว่า 10 ล้านบาท

อีกรายการหนึ่งที่ประชาชนในเขตเทศบาลตำบลท่าเสา ให้ความสนใจมากไม่แพ้รายการแรกและเป็นรายการต่อเนื่องที่ต้องดำเนินการควบคู่ไปพร้อมกันคือ “งบประมาณค่าปรับปรุงระบบผลิตน้ำประปาเทศบาลตำบลท่าเสา” ด้วยงบประ มาณ 27,613,000 บาท เพื่อใช้แก้ปัญหาน้ำประปาที่ผลิตไม่เพียงพอจ่ายให้กับประชาชน จากระบบการผลิตน้ำประปาเดิมที่มีกำลังการผลิตเพียง 50 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เหมาะสำหรับชุมชนที่มีผู้ใช้น้ำเพียง 700-1,300 ราย  ปัจจุบันการผลิตน้ำประปาเต็มกำลังการผลิตสูงสุดจ่ายให้ประชาชนผู้ใช้น้ำ ได้เพียงจำนวน 1,402 ราย ไม่สามารถเพิ่มอัตราการผลิตและขยายพื้นที่การจ่ายน้ำประปาได้อีก สร้างความเดือดร้อนอย่างหนักให้กับประชาชนในพื้นที่ตำบลท่าเสา

กระทั่งผู้บริหารเทศบาลตำบลท่าเสาชุดก่อนหรือในอดีต และต่อเนื่องมาถึงชุดปัจจุบันจัดหางบประมาณซื้อน้ำประปาจากทางเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ เพื่อจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่อีก จำนวน 3,148 ราย เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ตำบลท่าเสา เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า จนกว่าจะมีโรงสูบน้ำดิบเป็นของตัวเองพร้อมปรับปรุงระบบผลิตน้ำประปาให้มีกำลังการผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

ผลมติที่ประชาสภาเทศบาลตำบลท่าเสา สมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าเสา มีมติเห็นด้วยและอนุมัติงบประมาณการก่อสร้างโรงสูบน้ำดิบจากแม่น้ำน่านพร้อมท่อส่งน้ำดิบไปยังระบบผลิตน้ำประปาหนองช้างเพรียง ด้วยงบประมาณ 22,000,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าเสา ได้ลงมติไม่เห็นด้วยและไม่อนุมัติงบประมาณค่าปรับปรุงระบบผลิตน้ำประปาเทศบาลตำบลท่าเสา ด้วยงบประมาณ 27,613,000 บาท เพื่อแก้ปัญหาน้ำประปาที่ผลิตไม่เพียงพอจ่ายให้กับประชา ชน จากระบบการผลิตน้ำประปาเดิมที่มีกำลังการผลิตเพียง 50 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เพิ่มจากเดิมเพื่อจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่อีก จำนวน 3,148 ราย

“ โดยให้เหตุผลอ้างว่า ให้มีการก่อสร้างโรงสูบน้ำดิบจากแม่น้ำน่านพร้อมท่อส่งน้ำดิบไปยังระบบผลิตน้ำประปาหนองช้างเพรียง ด้วยงบประมาณ 22,000,000 ล้านบาท ให้ได้ 20-30%  ก่อนที่จะมารับช่วงงบประมาณค่าปรับปรุงระบบผลิตน้ำประปาเทศบาลตำบลท่าเสา ด้วยงบประมาณ 27,613,000 บาท ให้ลองบริหารน้ำให้กับชาวบ้านในชุมชนไปช่วงหนึ่งก่อนว่า น้ำจะมีคุณภาพสะอาดและใสไหม พออกพอใจให้กับประชาชนไหม”

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างตรึงเครียดและสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านที่ร่วมรับฟังอยู่ภายในห้องประชุมสภาและนอกห้องประชุมสภาเทศบาลตำบลท่าเสาเป็นอย่างมาก ที่ได้รับชมการถ่ายทอดสดการประชุมสภาเทศบาลตำบลท่าเสา ผ่านทางเพจเฟชบุ๊คของเทศบาลตำบลท่าเสาบนมือถือเห็นว่า การนำเอาจำนวนเปอร์เซ็นต์ 20-30%  ของการโครงการก่อสร้างโรงสูบน้ำดิบจากแม่น้ำน่านพร้อมท่อส่งน้ำดิบไปยังระบบผลิตน้ำประปาหนองช้างเพรียง มาต่อรองเพื่อให้มีการอนุมัติงบประมาณค่าปรับปรุงระบบผลิตน้ำประปาเทศบาลตำบลท่าเสา เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และมีเจตนาในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เข้าข่ายความผิดในมาตรา 157

ล่าสุด ประชาชนชาวตำบลท่าเสาเตรียมยื่นเรื่องร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาตรา 157 เพื่อเอาผิดต่อสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) ตำบลท่าเสา ผู้อภิปรายและสมาชิกที่ยกมือโหวตไม่อนุมัติงบประมาณปรับปรุงระบบผลิตน้ำประปาเทศบาลตำบลท่าเสา โดยนำหลักฐานคลิปวิดีโอ การอภิปรายในสภายื่นต่อ ป.ป.ช. กรณีสมาชิก ส.ท.ไม่ยึดผลประโยชน์​ของประชาชนเป็นที่ตั้ง​ แต่ยึดผลประโยชน์ทางการเมืองพรรคพวกตัวเองเป็นใหญ่​ ด้วยการต่อรองให้มีการดำเนินโครงการที่1​ ไปแล้ว​ 20-30%  จึงจะอนุมัติโครงการที่2​ เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยการประวิงเวลาก่อความล่าช้า แทนที่จะเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างรวดเร็วทันใจ​ เป็นการซ้ำเติมปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนเพิ่มขึ้นไป ที่ต้องมารอความหวังจากการดำเนินการของโครงการแรก​ 20-30%  ซึ่งไม่รู้ว่าโครงการแรกจะต้องใช้ระยะเวลานานกี่เดือน จะได้ตามเป้า​ 20-30%  ตามที่ ส.ท. ต้องการ ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนหลายอย่าง​ อาทิ​ การประกาศหาผู้รับจ้าง​ ระยะเวลาเริ่มต้นที่ผู้รับจ้างจะเข้าเริ่มทำงาน​ ปัญหาอุปสรรคในการทำงานช่วงฤดูฝน​ รวมถึงเหตุการณ์​ภัยทางธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้น ทั้งพายุและลมฝนจะเกิดขึ้นในวันข้างไม่สามารถคาดการณ์ได้ แทนที่โครงการที่1 และโครงการที่2 จะดำเนินการควบคู่กันไป เพื่อให้งานเสร็จพร้อมกันทันการ กับการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านไปได้ และไม่ต้องซื้อน้ำจากเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่1 ปี ถึง 10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ “ชาวบ้านตำบลท่าเสา” ได้ปรึกษาผู้มีความรู้ด้านกฎหมาย เชี่ยวชาญทางคดีด้านการเมืองการปกครอง ให้เข้ามาทำคดีนี้ พร้อมยื่นร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาและศาลปกครอง กรณีถูกกระทำละเมิดโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ การใช้อำนาจรัฐที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน ก่อให้เกิดความเสียหายหรือความไม่เป็นธรรมแก่ประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ข้าราชการบำนาญท่าหนึ่ง ขอสงวนชื่อและนามสกุล กล่าวเปิดเผยว่า เท่าที่รับทราบ เทศบาลตำบลท่าเสามีงบประมาณกว่า 100 ล้าน มีการนำงบประมาณออกมาใช้ไม่ถึง 50 ล้านบาท เหตุเพราะสมาชิก ส.ท.ชุดปัจจุบัน ไม่ผ่านงบประมาณในสภาให้กับผู้บริหารหรือนายกเทศมนตรี เพื่อนำงบประมาณที่มีอยู่ไปพัฒนาตำบลท่าเสา ในแก้ปัญหาความเดือดร้อน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งและน้ำประปาให้กับประชาชน มีน้ำอุปโภคบริโภคในพื้นที่ได้ใช้อย่างจริงจัง เหตุด้วยการเมืองที่มีการแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย ระหว่างสมาชิก ส.ท.ที่เป็นฝ่ายค้าน จำนวน 11 คน กับผู้บริหารหรือนายกเทศมนตรี มีสมาชิก สท.เพียง 1 คน ซึ่งเทศบาลตำบลท่าเสามีสมาชิก ส.ท. ได้ 12 คน เห็นเด่นชัดเจนมากที่สุดคือ “การจ่ายเงินสะสม” จะต้องนำมาแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนที่ขาด แคลนน้ำอุปโภคบริโภค ที่ผ่านมาทุกปีจะต้องซื้อน้ำจากทางเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ปีละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 10 ปี ใช้งบไปรวมแล้วกว่า 100 ล้านบาท แทนที่จะนำงบประมาณส่วนนี้มาพัฒนาเทศบาลตัวเอง

ข้าราชการบำนาญคนเดิม กล่าวด้วยว่า สมาชิก ส.ท. อนุมัติงบประมาณผ่านสภา โครงการที่1 โครงการก่อสร้างโรงสูบน้ำดิบจากแม่น้ำน่านพร้อมท่อส่งน้ำดิบ มายังหนองช้างเพรียงด้วยงบประมาณกว่า 22 ล้านบาท  แต่สมาชิก ส.ท.ไม่อนุมัติโครงการปรับปรุงระบบผลิตน้ำประปาเทศบาล จำนวนเงินกว่า 27 ล้านบาท ทั้งที่อยู่ในแผนพัฒนาท้องถิ่นอยู่แล้ว แต่ดันให้เหตุผลว่า จะต้องก่อสร้างโครงการที่1 ให้ได้ 20-30%  ถึงอนุมัติโครงการที่2 จะผ่านสภาให้ภายหลัง มันพิลึกกึกกือไหม อยากถามกลับไปว่า ส.ท.ผู้อภิปราย ใช้สมองส่วนไหนคิด ลองไปสอบถามสภาท้องถิ่นอื่นทั่วประเทศซิ มีใครเขาทำกันแบบนี้ เป็นการกระทำที่แย่มาก

ข้าราชการบำนาญ กล่าวด้วยว่า อยากถามหาจิตสำนึก ส.ท.มีไหม ที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ตอนนี้ชาวบ้านกำลังเดือดร้อนแต่ ส.ท.ทั้งหลาย เอาการเมืองผนวกกับความเกียจชังส่วนตัวผู้บริหารมาทำลายล้างกันในสภา โดยเอาความเดือดร้อนของประชาชนผูกติดไปด้วย ไม่รู้จักแยกแยะ ระหว่างเรื่องส่วนตัวกับความเดือดร้อนของประชาชน เราควรต้องแยกออกจากกันให้ได้ การเมืองเลือกตั้งครั้งหน้ายังคาดว่าจะได้เข้ามาในสภาอีกหรือ กับสิ่งที่เรียกว่า “พวกมากลากไป” มันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเห็นอย่างชัดเจน เข้าข่ายกฎหมายความผิดทางอาญามาตรา 157 ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่เทศบาล คณะผู้บริหารเทศบาล สามารถร้องเอาผิดกับ ส.ท.ไม่สนใจแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนในชุดนี้ได้ทั้งหมด ยินดีให้คำปรึกษาชี้ช่องข้อกฎหมายเอาผิดทุกคนที่เกี่ยวข้อง ที่ประชาชนได้รับความเสียหายและหน่วยงานของรัฐก็ได้รับความเสียหายด้วย

“ ในฐานะที่เคยเป็นข้าราชการมาก่อน อยากฝากถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ว่า การเมืองท้องถิ่นที่เทศบาลตำบลท่าเสา เป็นการเมืองที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายมานานกว่า 10 ปีแล้ว มองเห็นชัดเจน แต่ไม่เคยมีความรุนแรงมากขนาดนี้ ชนิดที่เอาความเดือดร้อนของประชาชนมาผนวกกับการเมืองท้องถิ่น ด้วยการไม่อนุมัติงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ด้วยจิตสำนึกที่แท้จริง มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ในฐานะผู้ปก ครองดูแลและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในจังหวัดอุตรดิตถ์ ต้องนำโครงการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ลงมาแก้ไขปัญหาเรื่องความเดือดร้อนให้กับประชาชนถึงพื้นที่ เรียกฝ่ายการเมืองทั้ง 2 ฝ่าย มาพูดคุยหาทางออกในการแก้ปัญหาร่วมกัน เรื่องการเมืองให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินในวันเลือกตั้ง แต่ความเดือดร้อนต้องแก้ปัญหาเร่งด่วนก่อน ต้องเข้าไปดูว่าปัญหาความเดือดร้อนทั้งในส่วนของราชการมีอะไรบ้าง ความเดือดร้อนของประชาชนมีอะไรบ้าง งบประมาณมีอยู่แล้วจะลงมาช่วยอะไรได้บ้าง ต้องลงไปดูแลพร้อมสางปัญหาที่มีอยู่ จะมานิ่งเฉยไม่ดูดายหรือไม่แก้ไขปัญหาคงไม่ได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ต้องลงมาดูแลด้วยตนเอง หากไม่ลงมาดูแลด้วยตนเองแล้วเกิดปัญหาตามมาภายหลังจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้

เห็นด้วยในส่วนที่ประชาชนจะยื่นเรื่องร้องผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ศาลปกครองและ ป.ป.ช. เพราะเป็นทางออกหนึ่งในกระบวนการยุติธรรม เหตุด้วยประชาชนได้รับความเดือดร้อน จากการฟังคลิปเสียงในสภาแล้วเข้าข่ายความผิดสภาเทศบาลตำบลท่าเสา ไม่ควรเอาเรื่อง 20-30% มาต่อรองกับการที่จะอนุมัติโครงการหรือไม่อนุมัติโครงการ แต่ควรดูปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก “ปลาตายน้ำตื้น” อับอายไปทั่วประเทศที่ได้เห็นและฟังคลิปนี้” ข้าราชการบำนาญ กล่าว.

Facebook Comments Box

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า