|
Getting your Trinity Audio player ready...
|
อุตรดิตถ์ ทสจ. ศูนย์ป่าไม้ สำนักพุทธศาสนาจังหวัดพร้อมคณะสงฆ์ บูรณาการร่วมกันเร่งรัด ดำเนินการขอใช้ที่ดินป่าไม้ ป่าสงวนแห่งชาติ ที่พักสงฆ์ รวม 61 แห่ง ใน 9 อำเภอ ให้ถูกต้องตามกฏหมาย เพื่อเสนอต่อ สจป.3 ลำปาง ผลักดันเข้าสู่คณะกรรมการจังหวัด ยกฐานะให้ได้เป็นวัดในอนาคต
เมื่อเร็วๆนี้ ที่ห้องรับรองวัดกลาง ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ พระปัญญากรโมลี (ดร.) เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ พระครูวีรศาสน์ประดิษฐ์ เจ้าคณะอำเภอบ้านโคก นายมรกต อินทรภู่ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย นางน้ำทิพย์ ต่ายลำยงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธ ศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ นายสุพรรณ์ ยากองโค นักวิชาการศาสนาชำนาญการ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมพระพุทธศาสนาและกิจการพิเศษ, นายธนภัทร อุทธตรี นักวิชาการศาสนาชำนาญการ ร่วมปรึกษาหาแนวทางแก้ไขปัญหาของพระสงฆ์ ที่พักสงฆ์ สำนักสงฆ์หรือวัด เข้าอยู่อาศัยในพื้นที่ดินป่าไม้และป่าสงวนแห่งชาติ ให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 และป่าสงวนแห่งชาติ ตามมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 และเร่งรัดตามมติคณะรัฐมนตรี2563 เกี่ยวกับคำขออนุญาตและขอใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้ถูกต้องตามกฏหมาย
ทั้งนี้ ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ ในการขอใช้พื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 ที่พักสงฆ์จำนวนทั้งสิ้น 13 แห่ง ประกอบด้วย อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ เขตพุทธาวาส (ดอยแก้ว) ตำบลงิ้วงาม, พระธาตุสามรัก ตำบลบ้านด่านนาขาม, ม่อนพระบาทสี่รอย ตำบลหาดงิ้ว, อำเภอน้ำปาด ห้วยโป่ง ตำบลห้วยมุ่น, ต้นม่วง ตำบลเด่นเหล็ก, ป่าพุทธญาณบารมี ตำบลห้วยมุ่น, ห้วยตาด ตำบลน้ำไผ่, ปากห้วยนา ตำบลน้ำไผ่, ชำเตย ตำบลน้ำไคร้, อำเภอทองแสนขัน พุทธบารมี ตำบลบ่อทอง, ศูนย์ปฏิบัติธรรม ตำบลบ่อทอง, สหบุญญาราม ตำบลผักขวง, , จัตุรมุข (เขาน้ำตก) ตำบลแม่พูล อำเภอลับแล
นอกจากนี้ ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ การขอใช้พื้นที่ป่าป่าสงวนแห่งชาติ เร่งรัดตามมติคณะรัฐ มนตรี 2563 ที่พักสงฆ์อีกจำนวน 48 แห่ง ประกอบด้วย อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ สายธารฤดีศรีสุภัททาราม ตำบลแสนตอ, น้ำไคร้ ตำบลบ้านด่านนาขาม, พุทธอุทยานเฉลิมพระเกียรติ ตำบลบ้านด่านนาขาม, เวฬุวันวารี ตำบลงิ้วงาม, อำเภอลับแล ม่อนธาตุ ตำบลศรีพนมมาศ, อำเภอท่าปลา น้ำลี ตำบลน้ำหมัน, น้ำต๊ะ ตำบลน้ำหมัน, ทรายงาม ตำบลน้ำหมัน, ห้วยสีเสียด ตำบลผาเลือด, ห้วยเจริญ ตำบลผาเลือด, สีเสียด ตำบลจริม, อำเภอน้ำปาด ห้วยพร้าว ตำบลห้วยมุ่น, โป่งพาน ตำบลห้วยมุ่น, โพนทองราษฎร์อุทิศ ตำบลห้วยมุ่น, มณีแก้ว ตำบลห้วยมุ่น, ต้นขนุน ตำบลน้ำไผ่, ปางขามป้อม ตำบลน้ำไผ่, กกม่อนแก้ว ตำบลน้ำไผ่, งอมมด ตำบลท่าแฝก, งอมสัก ตำบลท่าแฝก, ผาผึ้งน้อย ตำบลท่าแฝก, เด่นยาว ตำบลท่าแฝก, ห้วยผึ้ง ตำบลท่าแฝก, วังน้ำต้น ตำบลท่าแฝก, ห้วยไผ่ ตำบลท่าแฝก, อำเภอบ้านโคก ห้วยน้อยกา ตำบลม่วงเจ็ดต้น, วังสัมพันธ์ ตำบลม่วงเจ็ดต้น, ศูนย์ปฏิบัติธรรมปัญญา ตำบลม่วงเจ็ดต้น, ชำผาก้ามปิติธรรม ตำบลม่วงเจ็ดต้น, น้ำลัด ตำบลม่วงเจ็ดต้น, ห้วยยศ ตำบลม่วงเจ็ดต้น, ม่วงชุม ตำบลนาขุม, สุมข้าม ตำบลนาขุม, นาบัว ตำบลนาขุม, ห้วยไคร้ ตำบลนาขุม, น้ำแพ ตำบลบ้านโคก, หนองไผ่ ตำบลบ้านโคก, ปางคอม ตำบลบ่อเบี้ย, ปางไฮ ตำบลบ่อเบี้ย, ห้วยไผ่ ตำบลบ่อเบี้ย, เด่นชาติ ตำบลบ่อเบี้ย, ห้วยยาง ตำบลบ่อเบี้ย, อำเภอฟากท่า โคกธาตุ ตำบลฟากท่า, อำเภอทองแสนขัน พุทธรักษ์ ตำบลป่าคาย, ผาสุขวิหารธรรม ตำบลผักขวง, อำเภอตรอน ป่าเขาเหล็ก ตำบลวังแดง, อำเภอพิชัย เขาสองพี่น้อง ตำบลนาอิน, ถ้ำเขาปากประตูชัย ตำบลนาอิน,
ต่อมา พระปัญญากรโมลี ดร. (นิพนธ์ ปัญญาสาโร) เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้มีการเรียกประชุมพระสังฆาธิการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมปรึกษาหารือร่วมกันกับนายมรกต ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ นางน้ำทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ นายนเรศ นนท์คลัง ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้อุตรดิตถ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมขับคลื่อนแก้ไขปัญหาการเข้าอยู่อาศัยในพื้นที่ดินป่าไม้และสงวนแห่งชาติของพระสงฆ์ ที่พักสงฆ์ สำนักสงฆ์ ให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 และป่าสงวนแห่งชาติ ตามมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 และตามมติคณะรัฐมนตรี 23 มิถุนายน 2563 และ 11 พฤษภาคม 2564 ดำเนินการเร่งด่วน เกี่ยวกับการขออนุญาตและเอกสารคำขออนุญาตใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้ถูกต้องตามกฏหมาย
เนื่องจากที่ผ่ามามีการยื่นเอกสารขอใช้ที่ดินดังกล่าวต่อ สำนักงานทรัพยากรธรรมาชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ ศูนย์ป่าไม้อุตรดิตถ์ไปแล้ว แต่ยังขาดเอกสารประกอบคำขอจำนวนมากที่ยังไม่ครบถ้วน เพื่อขอใช้ที่ดินป่าไม้และป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ทางสำนักงานทรัพย์ฯ ศูนย์ป่าไม้อุตรดิตถ์ สำนักพุทธฯจังหวัดอุตรดิตถ์และคณะสงฆ์ จึงจำเป็นต้องบูรณาการร่วมกันกับทุกฝ่าย เพื่อให้การขับเคลื่อนเป็นไปด้วยความรวดเร็วและถูกต้องตามกฏหมาย ณ.ที่ ห้องประชุมอาคารธรรมสภา ซึ่งเป็นอาคารปูน 2 ชั้น หลังแรกในจังหวัดอุตรดิตถ์ สร้างในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี (เริ่มสร้าง พ.ศ. 2491) ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีพระบรมราชินีในรัชกาลที่7 ทรงปิดทองลูกนิมิตเอก ในวันที่3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2492 อาคารธรรมสภาเป็นอาคารซึ่งสร้างด้วยแนวคิด ธรรมสภาในสมัยพุทธกาล นับเป็นอาคารแห่งแรกของประเทศไทย
ขณะเดียวกัน พระปัญญากรโมลี (ดร.) เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้เรียกประชุมคณะสงฆ์ระดับตำบลและอำเภอ ทั้งจังหวัด 9 อำเภอ ที่วัดวังกะพี้ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อแจ้งให้คณะสงฆ์ที่มาประชุม จำนวนเกือบ 100 รูป ได้รับทราบถึงกรณีที่พระสงฆ์มีการก่อสร้างอาคาร เสนาอาสนะ ที่พักสงฆ์ พร้อมเข้าไปอยู่ในพื้นที่ป่า 2484 และป่าสงวนแห่งชาติ แต่ยังยื่นเอกสารหลักฐานประ กอบคำขอใช้ที่ดินต่อสำนักพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศูนย์ป่าไม้อุตรดิตถ์ ยังไม่ครบถ้วนให้เร่งรีบดำเนินการด่วน โดยมีนายมรกต ผู้อำนวย การสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย นายสุพรรณ์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมพระพุทธศาสนาและกิจการพิเศษ เข้าร่วมประชุมถวายความรู้ให้แก่คณะสงฆ์ที่ร่วมประชุมในครั้งนี้ ก่อนที่พระปัญญากรโมลี (ดร.) เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ มอบหมายให้ พระมหามงคล กตปุญโญ รองเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าอาวาสวัดธรรมาธิปไตย พร้อมด้วยนายสุพรรณ์ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ ลงพื้นที่ทุกอำเภอร่วมทำความเข้าใจกับผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ติดตามเอกสารพร้อมจัดทำเอกสารประกอบคำขอใช้ที่ดินป่าไม้และที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ให้แก่พระสงฆ์ที่ปลูกสร้างอาคาร เสนาอาสนะ ที่พักสงฆ์ ในเขตป่าทั้ง 2 แห่ง พร้อมยื่นเรื่องเสนอต่อเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ศูนย์ป่าไม้อุตรดิตถ์ ขอใช้ที่ดินให้ถูกต้องตามกฏหมายต่อไป
นายมรกต กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการประชุมร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ ศูนย์ป่าไม้จังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมคณะสงฆ์เพื่อปรึกษาหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาพระสงฆ์ ที่พักสงฆ์ สำนักสงฆ์หรือวัด เข้าอยู่อาศัยในพื้นที่ดินป่าไม้และป่าสงวนแห่งชาติ ให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 และป่าสงวนแห่งชาติ ตามมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิ กายน 2561 และเร่งรัดตามมติคณะรัฐมนตรี2563 เกี่ยวกับการขออนุญาตและการยื่นคำขอใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้ถูกต้องตามกฏหมาย ที่ผ่ามาทางสำนักงานพระพุทธศาสนาได้มีการยื่นเอกสารคำขอใช้ที่ดินดังกล่าวต่อ สำนักงานทรัพยากรธรรมาชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ ศูนย์ป่าไม้อุตรดิตถ์ไปแล้ว แต่ยังขาดเอกสารประกอบคำขอจำนวนมากที่ยังไม่ครบถ้วน เพื่อดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี 23 มิถุนายน 2563 และ 11 พฤษภาคม 2564 เป็นการดำเนินการเร่งด่วน ซึ่งปัญหาดังกล่าวทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์และทางจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ได้เข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาเรื่องที่ดินให้กับพระสงฆ์มาถึง 2 ครั้งแล้ว แต่ปัญหาในปัจจุบันเกี่ยวกับเอกสารคำขอใช้ที่ดินป่าไม้และป่าสงวนแห่งชาติยังไม่พร้อม ได้ชี้แจงให้กับคณะสงฆ์ได้รับทราบ และให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ติดตามกับเจ้าคณะอำเภอแต่ละพื้นที่ ทั้งให้ความรู้และการจัดเตรียมเอกสารประกอบคำขอใช้ที่ดินฯ โดยให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์เป็นผู้ติดตามรวบรวมเอกสารจากทางเจ้าคณะอำเภอด้วยตนเอง เมื่อได้เอกสารครบแล้วทางสำนักงานทรัพยากรฯ สำนักงานพระพุทธฯและทางสำนักงานศูนย์ป่าไม้อุตรดิตถ์ จะได้ร่วมกันตรวจสอบเอกสารทั้งหมดให้ครบถ้วนถูกต้องชัดเจน พร้อมจัดส่งเอกสารให้กับทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) ดำเนินการตามระเบียบต่อไป
นายมรกต กล่าวว่า จากการที่ได้พูดคุยกับทางคณะสงฆ์ และทางเจ้าอาวาสวัดแต่ละแห่งยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน กรณีการกรอกเอกสาร ผู้ดูแลที่พักสงฆ์ สำนักสงฆ์ สามารถกรอกเอกสารยื่นคำขอใช้ที่ดินได้เลยไม่จำเป็นต้องรอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านดำเนินการ ที่สำคัญมติความเห็นชอบจากหมู่บ้าน จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะต้องประสานงานกับท้องที่ท้องถิ่นพื้นที่ที่พักสงฆ์ สำนักสงฆ์หรือที่วัดตั้งอยู่ เป็นการขอมติความเห็นชอบ เพื่อเป็นเอกสารประกอบคำขอใช้ที่ดินดังกล่าว ตามมติคณะรัฐมนตรี 23 มิถุนายน 2563 และ 11 พฤษภาคม 2564 เป็นการดำเนินการเร่งด่วน เพื่อให้วัดหรือสถานที่ราชการที่ทำประโยชน์ในพื้นที่ป่า เร่งดำเนินการยื่นคำขอมา ประกอบด้วยคำขอพร้อมภาพถ่ายแผนที่จาก Google Earth ซึ่งปัจจุบันรอคำขอเอกสารเหล่านี้ให้ครบถ้วนอยู่ เพื่อปฏิบัติตามระเบียบของการขอใช้ที่ดินป่าไม้ 2484 และป่าสงวนแห่งชาติ ทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วยศูนย์ป่าไม้จังหวัดอุตรดิตถ์ ยินดีให้การสนับสนุนแผนที่ ภาพพิกัดประกอบให้อยู่แล้ว จำเป็นต้องให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ ติดตามและตรวจสอบเอกสารข้อมูลเบื้องต้นให้เรียบร้อยก่อน หากขาดเหลือสิ่งใดก็จะดำเนินการประชุมร่วมกันอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้เกิดความถูกต้องชัดเจน
พระปัญญากรโมลี (ดร.) เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ได้ปรึกษาหาแนวทางแก้ไขปัญหาของพระสงฆ์ ที่พักสงฆ์ สำนักสงฆ์ เข้าอยู่อาศัยในพื้นที่ดินป่าไม้และป่าสงวนแห่งชาติ ร่วมกับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ ศูนย์ป่าไม้จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้มีความถูกต้องครบถ้วนทุกประการ ต้องอาศัยผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่นให้ความร่วมมือ ขอฝากผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่นให้ความร่วมมือกับคณะสงฆ์ เพื่อให้เอกสารหลักฐานประกอบคำขอใช้ที่ดินป่าไม้และป่าสงวนครบถ้วนสมบูรณ์ เมื่อมีการขออนุญาติใช้ที่ดินป่าไม้และป่าสงวนแห่งชาติแล้ว ทางพระสงฆ์จะได้ดำเนินการขอสร้างวัดหรือใช้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมของดยมในหมู่บ้านนั้น เพื่อให้เกิดความอยู่เย็นเป็นสุข ตามหลักของพระพุทธศาสนาสืบไป
พระปัญญษกรโมลี (ดร.) กล่าวว่า ขอความอนุเคราะห์กำนัน ผู้ใหญ่บ้านผู้นำชุมชน ท้องที่ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ เมื่อพระสงฆ์ไปขอความอนุเคราะห์แล้ว ให้ความร่วมมือต่อคณะสงฆ์ด้วย เมื่อทางป่าไม้หรือเขตอนุรักษ์ป่าไม้อนุญาตแล้วก็จะเกิดประโยชน์ต่อชุมชน เนื่องจากชุมชนสามารถถใช้พื้นที่ร่วมกับคณะสงฆ์ได้ หากเป็นไปได้สามารถสร้างวัดให้ถูกต้องตามกฏหมาย หรือผู้นำท้องที่สามารถร่วมกับคณะสงฆ์ร่วมกันปลูกป่าไม้เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมร่วมกันให้ถูกต้องตามกฏหมาย ตามหลักการขออนุญาตใช้พื้นที่ เพื่อเป็นไปตามหลักหรือเพื่อปฏิบัติธรรมตามหลักของพระพุทธ ศาสนาให้เกิดความมั่นคงในชุมชนต่อไป
สิ่งที่อยากฝากบอกกับผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่นว่า สถานที่ต่างๆโดยเฉพาะที่พักสงฆ์ สำนักสงฆ์ ได้มีการยื่นคำขอเอาไว้แล้วตั้งแต่ผู้นำคนก่อนสืบทอดมาถึงปัจจุบัน ผู้นำปัจจุบันต้องต่อยอดสนองงาน เมื่อผู้นำท้องที่ให้ความร่วมมือแล้วสามารถช่วยกันดูแลรักษาผลประโยชน์ในพื้นที่ชุมชนนั้นให้เกิดความมั่นคงต่อไป.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด พระมหามงคล กตปุญโญ รองเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าอาวาสวัดธรรมาธิปไตย พร้อมด้วยคณะสงฆ์ และ นายสุพรรณ์ ยากองโค ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมพระพุทธศาสนาและกิจการพิเศษ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่นหมู่บ้าน ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการเอกสาร การยื่นคำขอใช้ที่ดินป่าไม้ ป่าสวนแห่งชาติ ให้แก่ที่พักสงฆ์ สำนักสงฆ์หรือวัดในพื้นที่ได้ถูกต้องตามกฏหมาย ในเขตพื้นที่ป่าไม้ 2484 จำนวน 13 แห่ง และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 48 แห่ง เอกสารที่ได้รับส่วนใหญ่ 98-99% ครบถ้วนสมบูรณ์ยังคงขาดขาดเพียงแค่เอกสาร ภาพถ่ายแผนที่จาก Google Earth ในการประกอบคำขอใช้ที่ดิน
โดยทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ เตรียมรวบรวมเอกสารทั้งหมดที่ได้รับมา เสนอต่อนางเครือวัลย์ ทองบุ นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนัก งานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อเห็นชอบลงนามรับรองเอกสาร ประกอบคำขอใช้ที่ดินป่าไม้ ป่าสงวนแห่งชาติ ที่ได้ยื่นไปก่อนหน้านี้แล้ว พร้อมยื่นเรื่องเสนอต่อสำนักงานศูนย์ป่าไม้จังหวัดอุตรดิตถ์ ในสัปดาห์หน้าเพื่อตรวจเอกสารความถูกต้องหรือเพิ่มเติมเอกสารส่วนที่ขาดหายไปประกอบให้ถูกต้องตามกฏหมาย เพื่อนำเสนอต่อสำนักจัดการป่าไม้ที่3 ลำปาง ดำเนินการตามระเบียบขั้นตอน แล้วจึงนำเสนอต่อสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ ให้นำเรื่องการขอใช้ที่ดินของที่พักสงฆ์ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ทั้ง 61 แห่ง เสนอเข้าสู่คณะกรรมการจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เพื่อลงมติอนุญาตเห็นชอบให้ใช้ที่ดินที่พักสงฆ์ในเขตป่าไม้และป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมอนุญาตให้ได้รับการยกฐานะสร้างวัดในอนาคตต่อไป.
