4 5
Getting your Trinity Audio player ready...

“นายกแสวง ทต.บ้านโคก” เชิญเที่ยวงานบุญกองข้าวใหญ่ ประจำปี 2567 ชมขบวนแห่บายศรี พิธีบายศรีข้าว การแต่งกายพื้นบ้าน แข่งขันทำอาหารพื้นบ้าน อนุรักษ์ประเพณีท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมชาวบ้าน ให้คงอยู่คู่ลูกหลาน ร่วมจับจ่ายซื้อของด่านประเพณีช่องห้วยต่าง เชื่อมความสัมพันธ์ไทย-ลาว ระหว่างเมือง นับวันหาดูยาก เพราะถูกยกระดับให้เป็นด่านถาวรเกือบหมดแล้ว

1.2 1 8 2 6 3.1 2 3.2 1

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 66 นายแสวง ดวงสุภา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านโคก อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ กล่าวเปิดเผยว่า บ้านโคก เป็นอำเภอ 1 ใน 9 อำเภอของจังหวัดอุตรดิตถ์ทางภาคเหนือของประเทศไทย มีพื้นที่ 1,055.911 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 6,599,433 ไร่ มี 7 หมู่บ้าน ประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรมปลูกข้าว ข้าวโพด สับปะรดและยางพารา นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ติดกับประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เทศบาลตำบลบ้านโคก จึงมีด่านประเพณีเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ กับทาง สปป.ลาว เรียกด่านนี้ว่า จุดผ่อนปรนตลาดการค้าช่องห้วยต่าง ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านหนองไผ่ หมู่ที่7 มีการเปิดด่านทุกวันพุธ โดยมีพี่น้องประชาชนลาว นำสินค้ามาขายแลกเปลี่ยนกับพี่น้องคนไทยอำเภอบ้านโคก เป็นจุดแข็งช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจให้กับเทศบาลในระดับหนึ่ง

นายแสวง  กล่าวว่า ทุกปีทางเทศบาลตำบลบ้านโคกจะจัดให้มีงานสืบสานประเพณีบุญกองข้าวใหญ่ ณ สนามกีฬาภูเวียง หน้าที่ว่าการอำเภอบ้านโคก “บุญกองข้าว” ในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม 2567 เป็นงานบุญประเพณีของชาวบ้านโคกที่แสดงให้เห็นจิตวิญญาณ ของชุมชนที่ดำรงอยู่ด้วยวิถีเกษตรกรรมมาช้านาน ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน ด้วยสำนึกในบุญคุณของข้าวที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนทุกคน ทั้งนี้ ยังเป็นการแสดงออกถึงพลังแห่งความร่วมแรงร่วมใจของชุมชนทั้ง 7 หมู่บ้าน เพื่อสืบทอดจิตวิญญาณที่กล้าแกร่งของชาวนา มีการทำพิธีบายศรีสู่ขวัญข้าวโดยมีพราหมณ์เป็นผู้ทำพิธี

3 7 4.1 1 4 5 5 4 6 8 7 7 8 59 7

“ ในการเตรียมทำบุญกองข้าวใหญ่นั้น เมื่อก่อนจะต้องจัดเตรียมสถานที่ทำบุญที่ลานนวดข้าวของตน การนำข้าวที่นวดแล้วมากองขึ้นให้สูงเรียกว่า “คูณลาน” จากนั้นนิมนต์พระภิกษุสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ จัดน้ำอบน้ำหอมไว้ประพรมซึงด้ายสายสิญจน์รอบกองข้าว เมื่อพระภิกษุสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบแล้วถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ จากนั้นนำข้าวปลาอาหารมาเลี้ยงญาติพี่น้อง ผู้มาร่วมทำบุญ พระสงฆ์ก็จะประพรมน้ำพุทธมนต์ให้กองข้าวแก่เจ้าภาพ พร้อมนำน้ำพระพุทธมนต์ที่เหลือไปปะพรมให้แก่วัว ควาย ตลอดจนเครื่องมือในการทำนาเพื่อความเป็นสิริมงคล”

นายแสวง  กล่าวด้วยว่า ในปัจจุบันการทำบุญกองข้าวใหญ่ หรือบุญคุณลานนั้น นับวันยิ่งจะเลือนหายไป จากไม่ค่อยมีผู้สนใจประพฤติ ปฏิบัติกัน เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านประเพณีและวัฒนธรรม ปัจจุบันในการทำนาของชาวนานั้น ชาวนาไม่มีลานนวดข้าวเหมือนเก่าก่อน เมื่อเกี่ยวข้าวเสร็จและมัดข้าวเป็นฟ้อนๆ แล้วจะขนมารวมกันไว้ ณ ที่ที่หนึ่งของนาโดยไม่มีลานนวดข้าว หลังจากนั้นก็ใช้เครื่องสีข้าวมาสีเมล็ดข้าวเปลือกออกจากฟางลงใส่ในกระสอบและในปัจจุบันยิ่งมีการใช้รถไถนา เครื่องสีข้าวเป็นส่วนมากจึงทำให้ประเพณีบุญกองข้าวใหญ่ เริ่มเลือนหายไป แต่ก็ยังมีบางหมู่บ้านบางแห่งที่ยังรวมกันทำบุญโดยนำข้าวเปลือกมากองรวมกันเรียก”กองข้าวใหญ่” ซึ่งจะเรียกว่าบุญกองข้าวใหญ่ แทนการทำบุญคูณลาน นับว่าเป็นการ ประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับยุคสมัยและประเพณีที่สืบทอดกันมา

10 5 11 6 12 5 13.1 1 13 5 14.1 2 14 6

นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านโคก กล่าวว่า ชาวบ้านโคกเชื่อว่า “แม่พระโพสพ”  มีอำนาจสามารถดลบันดาลให้ข้าวมีความเจริญงอกงามและนำความอุดมสมบูรณ์มาให้แก่ชาวนาที่บูชาเทวีแห่งข้าว จึงมีพิธีบูชาแม่พระโพสพก่อนที่จะลงมือทำนาหรือระหว่างตกกล้า จนข้าวตั้งท้องออกรวงไปจนถึงการเก็บเกี่ยวในที่สุดการทำพิธีบูชาแม่พระโพสพนั้นจะทำพิธีทางพราหมณ์ตามประเพณีปฏิบัติของบรรพชนเรียกว่า”พิธีสู่ขวัญข้าว” เพราะถือคติความเชื่อว่าขณะที่เราทำนาเกี่ยวข้าวและนวดข้าวเราใช้เท้าเหยียบย่ำข้าวจึงมีความจำเป็นที่จะต้องร่วมทำพิธีบูชาแม่พระโพสพเพื่อขอขมาจะได้เป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัวให้มีแต่ความผาสุข

15 2 16 2 19 2199059 0 199060 0 199063 0 199064 0 199066 0

เมื่อหมอขวัญมาทำพิธีสู่ขวัญข้าว เสร็จพิธีแล้วก็จะมีการเฉลิมฉลองบุญกองข้าวหรือที่ชาวบ้านโคกเรียกว่า “อ่มกองข้าว” ทางเทศบาลตำบลบ้านโคก เล็งเห็นความสำคัญที่จะส่งเสริมและบำรุงรักษาจารีตประเพณีและวัฒนธรรมและการบำรุงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวตำบลบ้านโคก สืบต่อลูกหลานสืบต่อไป เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่งานประเพณีก่อเจดีย์บุญกองข้าวใหญ่ของตำบลบ้านโคก ส่งเสริมการท่องเที่ยวของตำบลบ้านโคกให้คนทั่วไปรู้จักมากยิ่งขึ้น เป็นการฟื้นฟูสืบทอด อนุรักษ์ ส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีก่อเจดีย์บุญกองข้าวใหญ่ ปลูกฝังให้ประขาชนและเยาวชนได้ซาบซึ้ง เกิดความประทับใจ ภาคภูมิใจในกิจกรรมท้องถิ่นของตนเอง รวมถึงรู้จักหวงแหนประเพณีวัฒนธรรมพร้อมเข้ามามีส่วนร่วมงานขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมที่ดีงามของชาติ ช่วยส่งเสริม และทำนุบำรุงรักษาประเพณีกองข้าวใหญ่ มรดกทางวัฒนธรรมที่ดีของบรรพบุรุษไทยที่ได้สร้างมาได้สืบทอดต่อไป นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมความเข้าใจ ความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะของท้องถิ่นของชุมชนด้วย ”  นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านโคก กล่าว

20 2 21 1 22 2 23 1 24 25 27

นายแสวง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านโคก กล่าวทิ้งท้ายว่า ภายในงานมี ขบวนแห่ข้าวเปลือก บายศรีข้าว การแต่งกายพื้นบ้านของแต่ละหมู่บ้าน พิธีบายศรีข้าว พิธีทำบุญกองข้าวใหญ่ การประกวดอาหารพื้นบ้าน  จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวชาวจังหวัดอุตรดิตถ์และต่างจังหวัด ร่วมงานประเพณีบุญกองข้าวใหญ่ ร่วมจับจ่ายซื้อสินค้าพื้นเมืองภายในงาน และร่วมจับจ่ายซื้อสินค้าที่ด่านประเพณีห้วยต่าง เป็นการนำสินค้าจากประชาชนเพื่อนบ้านนำมาขายที่ด่านประเพณีแห่งนี้ทุกวันพุธ เพื่อส่งเสริมการค้าขายร่วมกันระหว่างไทย-ลาว ที่บริเวณช่องภูต่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแสวง ดวงสุภา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านโคก ได้นำทีมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล(สท.) พนักงานเทศบาลพร้อมเจ้าหน้าที่ ลงแขกเกี่ยวข้าวนาศาลเจ้าปู่ตาหมากคำ แปลงนาข้าวบริเวณด้านหลังอาคารสำนักงานเทศบาลตำบลบ้านโคก มีเนื้อที่รวมทั้งหมด 7ไร่ แปลงนาสาธารณะประโยชน์ เป็นที่ดินที่ได้รับมาจากปู่ตาหมวกคำ จึงเรียกแปลงนาปลูกข้าวนี้ว่า “นาศาลเจ้าปู่ตาหมวกคำ”

” ในปีนี้ นายแสวง นายกเทศมนตรีฯ พร้อมด้วยคณะ ผู้บริหารและสมาชิก สท. มีนโยบายให้พนักงานเทศบาลทุกคนร่วมกิจกรรมปรับสภาพแปลงนา การไถ ปลูกข้าวและร่วมกันเก็บเกี่ยวข้าวในแปลงนาสาธารณะแปลงนี้ เพื่อนำรวงข้าวหรือข้าวเปลือกที่ได้ มาจัดงานสืบสานประเพณีก่อเจดีย์บุญกองข้าวใหญ่”

DSCF0561 1

DSCF0458 DSCF0487 DSCF0687DSCF0288 LINE ALBUM 2023.11.17 231119 2 LINE ALBUM 2023.11.17 231119 14 LINE ALBUM 2023.11.17 231119 17 LINE ALBUM 2023.11.17 231119 19 LINE ALBUM 2023.11.17 231119 25

ประวัติเจ้าปู่ตาหมวกคำ จากคำบอกกเล่าของปู่ย่า ตายาย กล่าวถึงว่า ปู่ตาหมวกคำ เป็นเจ้าเมืองมาจากภูเงินภูคำในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงนำทัพไปปราบฮ่อที่เมืองเส้า (หลวงพระบาง) ได้กวาดต้อนผู้คนมาเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนั้นมี “เจ้าเมืองภูเงินภูคำ” มาด้วย ครั้นพอถึงเขตบ้านโคก เห็นเป็นทำเลที่เหมาะสม แม่ทัพจึงสั่งให้เจ้าเมืองภูเงินภูคำสร้างค่ายคูประตูหอรบที่ภูเวียง

ปัจจุบันเป็นถูกสร้างให้เป็นสถานที่ราชการที่ว่าการอำเภอบ้านโคก และอีกค่ายหนึ่งอยู่ที่ภูโพง ต่อมา “เจ้าเมืองภูเงินภูคำ” สิ้นชีวิตลง ชาวบ้านเห็นว่าเป็นบุคคลสำคัญต่อบ้านเมือง จึงร่วมใจกันสร้างศาลเพื่อดวงวิญญาณของท่านได้สิงสถิตอยู่ชื่อว่า เจ้าปู่ตาหมวกคำ”
สำหรับภูเวียง ปัจจุบันคือเนินเขาบริเวณที่ว่าการอำเภอบ้านโคก ชาวบ้านเล่าว่าเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านหรือบ้านเรือนของผู้คนที่อพยพมาพร้อมกันกับพ่อปู่หมวกคำ บนเนินยังมีต้นไทรขนาดใหญ่พอเห็นเป็นหลักฐานได้บ้าง มีการทำกำแพงไม้ล้อมเนินเขาลักษณะคล้ายป้อมค่ายทั่วไป เวลาใช้น้ำก็ลงมาตักที่ลำน้ำสุ่มซึ่งอยู่ตีนเนินทางทิศใต้ใกล้ศาลพ่อปู่หมวกคำ

Facebook Comments Box

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า