|
Getting your Trinity Audio player ready...
|
ผู้ว่าอุตรดิตถ์เตรียมเยือนลาว ประชุมร่วมเจ้าแขวงไชยะบุรี แก้ปัญหาตลาดภูดู่ซบเซา ให้กลับมาคึกคักเหมือนเดิม จัดทำโมเดล มาสเตอร์แพน (MODEL& MASTER PLANT) โครงสร้างพื้นฐานรองรับอนาคต ย่านธุรกิจพาณิชย์ ด่านศุลกากร ด่านตลาดผลไม้ ขน“ทุเรียนลับแล” ขึ้นรถไฟไปจีน ขยายถนน-ไหล่ทาง ตามมาตรฐานสากล เร่งแก้ที่ดินชาวบ้านในป่าและ คทช.สำรวจและสำรองพื้นที่ เดือนมีนาคมนี้ชัดเจน
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวเปิดเผยว่า การค้าขายชายแดนไทย-ลาว ผ่านด่านถาวรสากลช่องภูดู่ ตำบลม่วงเจ็ดต้น อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ อยู่ในยุทธศาสตร์ของจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่5 เรื่องการยกระดับการค้าชายแดน จังหวัดอุตรดิตถ์ได้เตรียมความพร้อมการทำถนน กลุ่มภาคเหนือตอนล่าง1 ด้วยระยะทาง 400 เมตร ซึ่งอยู่ในแผนของกลุ่มจังหวัด ในส่วนของจังหวัดอุตรดิตถ์มีระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร ที่จะพัฒนาความกว้างของถนนให้ได้มาตรฐานสากล อยู่ในการดำเนินการด้านงบประมาณ ในปี 2567 ได้มีการก่อสร้างถนน-ขยายไหล่ทางเส้นน้ำปาด-บ้านโคก เพื่อเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งนี้คือประเด็นที่หนึ่ง ประเด็นที่สอง ทางจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ติดตามในด้านความก้าวหน้าให้กับด่านภูดู่ โดยมีส่วนราชการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกิจลักษณะโดยเฉพาะกรมศุลกากรได้รับการจัดสรรงบประมาณเข้ามาดำเนินการก่อสร้างอาคารในพื้นที่ด่านภูดู่แล้ว ด้วยงบประมาณ จำนวน 300 ล้านบาท เป็นการด้าวขยับไปข้างหน้ามากขึ้น
นายศิริวัฒน์ กล่าวว่า อย่างใดก็ดี “ด่านภูดู่” ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าและต้องเข้าเงื่อนไขการยกเลิกเพิกถอนหรือการขออนุญาตการใช้พื้นที่ป่าสงวน การใช้พื้นที่ป่าอุทยาน ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการคู่ขนานกันไป ขณะเดียวกันในส่วนของโมเดล มาสเตอร์แพน (MODEL& MASTER PLANT) ย่านธุรกิจหรือพาณิชย์ ติดขัดตรงที่มีราษฎรเข้าไปทำกินอยู่ในพื้นที่ป่าที่ได้สิทธิตามคณะกรรมการ นโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช.ซึ่งอยู่ระหว่างการทำข้อตกลงกับชาวบ้านให้มีการอพยพเคลื่อนย้ายหรือใช้พื้นที่หมู่บ้านอื่นทดแทนได้ไหม หรือยืนยันอยู่ที่เดิม หาชาวบ้านยืนยันอยู่ที่เดิมก็ต้องหาพื้นที่ใหม่ ซึ่งเป็นปัญหาคาราคาซังกันอยู่ในช่วง 2-3 ปีที่ผานมา
นายศิริวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ล่าสุด ขั้นตอนของทางจังหวัดอุตรดิตถ์ อยู่ในการหาพื้นที่ทดแทนให้กลุ่มชาวบ้านได้พิจารณาว่า “จะยินยอมแลกเปลี่ยนหรือไม่” หากไม่ยินยอมบวกกับสิทธิของทาง คทช.ว่า หากชาวบ้านมีสิทธิได้ตาม คทช.ก็ต้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ การพิสูจน์สิทธิเป็นเรื่องของกรมป่าไม้ จึงเป็นเรื่องคาราคาซังที่หลายคนมองว่า “ภูดู่” ยังไม่มีความคืบหน้า
สำหรับโซนที่เป็นของส่วนราชการหรือหน่วยงานราชการในขณะนี้นั้น ได้มีการดำเนินการแล้ว โซนเชิงพาณิชย์ติดขัดในเรื่องของที่ดินทำกินทับซ้อนกันระหว่างเขตป่าสงวนกับที่ดินทำกินของราษฎร การพัฒนาภูดู่ได้ไม่มีเพียงเฉพาะการเติบโตด้านของส่วนราชการด้วยการเอาส่วนราชการไปตั้งเท่านั้น จะต้องมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจด้านเชิงพาณิชย์ด้วย รวมถึงการสร้างอาคารสถานที่ธุรกิจการค้า จะต้องมีการสำรวจพื้นที่สำรองให้พร้อม ดูได้จากพื้นที่ของแม่สาย จังหวัดเชียงราย แม่สอด จังหวัดตาก หากมีแต่ด่าน มีส่วนราชการตั้ง ธุรกิจก็จะไม่เกิดการหมุนเวียนเท่าที่ควร สิ่งนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งในที่มาของความคืบหน้า
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า โดยสรุป 1.ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทางจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง 2.ด้านการพัฒนาพื้นที่ด่านภูด่ ได้มีการเตรียมพื้นที่ด่านกักกันสัตว์ พื้นที่ด่านศุลกากร พื้นที่ด่านของการเกษตร ซึ่งได้มการเตรรยมจัดโซนนิ่งไว้ให้ แต่ที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดคือ “ด่านศุลกากร” ได้เข้ามาดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงานที่ทำการแล้ว คือความคืบหน้าที่สำคัญ ประเด็นที่2. ที่หลายฝ่ายมีความกังวลหรืออยากทราบว่า ความสัมพันธ์ไทย-ลาว ระหว่างจังหวัดอุตรดิตถ์ แขวงไชยะบุรี อยู่ในระดับใด เรียนให้ทราบว่าอยู่ในระดับที่ดีอยู่ ด้วยมีการส่งข่าวสารถึงกันเป็นระยะ ทางแขวงไชยะบุรีมีการเชิญจังหวัดอุตรดิตถ์ไปงานบุญช้างและงานประเพณีเข้า-ออกพรรษา ส่วนเป็นทางการตามข้อตกลงในการประชุมครั้งถัดไป ทางแขวงไชยะบุรีจะเป็นเจ้าภาพ และได้มีการแจ้งให้ทราบว่าในปี 2567( 2024) ยังไม่พร้อม ในปี 2568 (2025) การประชุมจะมีขึ้นประมาณเดือนมีนาคม จะขอเชิญจังหวัดอุตรดิตถ์และผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เข้าร่วมประชุมพร้อมเซ็นเอ็มโอยู ในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างแขวงไชยะบุรีกับจังหวัดอุตรดิตถ์ ในรายละ เอียดยังไม่เห็นว่าเป็นอย่างไร แต่ก็เป็นสัญญาณในสิ่งที่ดีว่า แขวงไชยะบุรีกับทางจังหวัดอุตรดิตถ์ ไม่ได้ห่างเหินกัน และในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมคณะจะเดินทางไปแขวงไชยะบุรีเพื่อร่วมงาน “บุญช้าง”
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวด้วยว่า ในการเตรียมความพร้อมเปิดด่านภูดู่หลังจากติดปัญหาเรื่องโควิด19 ทางภาคเอกชนกับทางภาคราชการหรือหน่วยงานราชการ ได้มองภูดู่เป็นด่านที่สำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดอุตรดิตถ์ เนื่องจากจังหวัดอุตรดิตถ์เป็นอาณาจักรทางการเกษตรมีผลไม้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะผลไม้ทุเรียนที่ส่งออกไปจีนที่มีมูลค่ากว่า 2,000 -3,000 ล้านบาท จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องที่1.ได้มีการเสนอให้ทางกระทรวงเกษตรขอเป็นด่านในการส่งออกผลไม้ สิ่งที่สำคัญอยู่ในเอกสารแนบท้ายของเอกสาร ซึ่งทางจังหวัดอุตรดิตถ์ได้ดำเนินการให้อยู่ในเอกสารแนบท้ายได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะเป็นเรื่องของโครงสร้าง ในเรื่องของส่วนราชการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการนั้นอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ
“ ในส่วนนี้ หากด่านภูดู่และความพร้อมของภูดู่ สามารถส่งออกทุเรียนได้ในจุดนี้ ก็จะเกิดประโยชน์กับจังหวัดอุตรดิตถ์และตลาดผลไม้ เมื่อจังหวัดอุตรดิตถ์ส่งออกทางภูดู่ได้ ก็จะขึ้นรถไฟความเร็วสูงที่เวียงจันท์หรือหลวงพระบาง ระยะทางในการขนส่งจะลดลงไปมากจะเหลือเพียงแค่ 2 วัน รถไฟความเร็วสูงของจีนเท่าที่รับทราบมาว่า สามารถวิ่งไปทั่วทุกมณฑลของประเทศจีนได้ภายในวันเดียว หากผลไม้ของจังหวัดอุตรดิตถ์สามารถส่งออกทางนี้ได้ ทุกวันนี้จังหวัดอุตรดิตถ์ส่งทางอำเภอเชียงจังหวัดเชียงรายกับทางจังหวัดนครพนม
หากเปิดด่านนี้ได้สำเร็จ จังหวัดอุตรดิตถ์จะเป็นตลาดค้าส่งออกผลไม้ของประเทศอีกทางหนึ่ง ดังนั้นในเรื่องของความตื่นตัวความสัมพันธ์ของภาคเอกชนที่อยากสนับสนุนให้มีการเปิด่านภูดู่นั้น ภาคเอกชนต้องผ่านทางคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) และต้องมีการเอ็มโอยูร่วมกันแขวงไชยะบุรี ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ให้ได้ก่อนจึงจะทราบว่า การขับเคลื่อนในระยะต่อไปจะต้องดำเนินการอย่างไร” นายศิริวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าว
นายศิริวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “โลจิสติกส์” ด้านการขนส่งจังหวัดอุตรดิตถ์ เรื่องทุเรียน “ล้ง” ทุเรียนจังหวัดรอบข้างมาอยู่ที่อุตรดิตถ์ ดังนั้นเส้นทางการค้าส่งจะไหลมาที่จังหวัดอุตรดิตถ์ หาเรายิ่งเปิดด่านภูดู่ได้ จะทำให้เกิดการไหลเวียนเศรษบฺกจทางผลไม้มากขึ้นและไม่ใช่เฉพาะเพียงผลไม้ทุเรียนเท่านั้น แต่จะเป็นผลไม้ชนิดอื่นด้วยที่จะถูกส่งออกไปยังประเทศจีน เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่ “โลจิสติกส์” ด้านที่สอง นอกเหนือจากการขนส่งผลไม้ที่มีการเตรียมความพร้อมแล้ว ก็จะเป็นเรื่องของการสัญจรตามเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ LIMEC จะทำให้สะดวกมากขึ้น ผลประโยชน์ด้านอื่นก็จะติดตามมา จังหวัดอุตรดิตถ์จะผลักดันให้ด่านภูดู่เป็นด่านการค้าชายแดนได้สำเร็จ
นายศิริวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ช่วงนี้ ตลาดภูดู่ซบเซาลง ปัจจัยหนึ่งทาง สปป.ลาว การยกเลิกนำน้ำมันเชื้อเพลิงออกทางด่านภูดู่ จึงทำให้มูลค่าความคึกคักของตลาดลดลงคือประเด็นที่หนึ่ง ประะเด็นที่สองในเรื่องของภาษี ทางจังหวัดอุตรดิตถ์ จะไปพูดคุยกับทางเจ้าแขวงไชยะบุรี ในการประชุมช่วงเดือนมีนาคม 2568 ว่า อยากให้มีการสร้างมาตรฐานทางภาษีให้ชัดเจน โดยเฉพาะสินค้าบางตัวอยู่ในดุลพินิจของศุลกากร ยังไม่เป็นระบบไอทีเหมือนด่านที่อื่นๆ จึงทำให้ความถูกต้องหรือเรื่องอื่นที่ยังไม่ชัดเจน ประเด็นที่สาม ในเรื่องภาษีฝั่งไทย ไม่มีการดำเนินการจัดเก็บอะไรมาก ซึ่งทางจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้พยายามส่งเสริมให้มีการค้าส่งออกในด่านนี้ให้เป็นเรื่องสำคัญ ประเด็นที่สี่ ภาษีภายในตลาดทางองค์การบริหารส่วนตำบลม่วงเจ็ดต้น ได้แจ้งมาว่ามีการจัดเก็บภาษีในอัตราเดิมอยู่ ยังไม่เพิ่มอัตราค่าเช่าแพง ซึ่งทางจังหวัดอุตรดิตถ์ยังคงประเมินสถานการณ์ในเรื่องภูดู่ว่า “ภูดู่” จะคึกคักมาขึ้นคงต้องรอความชัดเจนในการประชุมร่วมกับทางแขวงไชยะบุรีภายในเดือนมีนาคมนี้ เนื่องจากจังหวัดอุตรดิตถ์จะไปเสนอในเรื่องของการส่งออกสินค้าประเภทอื่น นอกเหนือจากเครื่องอุปโภค-บริโภค อาทิ มาม่า แฟ๊บหรือผงซักซอก เพราะเราต้องการส่งออกสินค้าอื่นด้วย.
ผู้ว่าอุตรดิตถ์เตรียมเยือนลาว
