|
Getting your Trinity Audio player ready...
|
ครั้งแรกในอุตรดิตถ์ รถยนต์เกือบ 400 คัน ทั้งรถยนต์เก๋ง กระบะ ร่วมงาน RACING CAR THAILAND ปิดถนนกลางเมือง ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬา (ร.ย.ส.ท.) รับรองความปลอดภัย ปิดถนนสนามรอบสนามกีฬาพิชัยดาบหักและสวนสาธารณะ 1.8-2 กิโลเมตร 4 วัน 4 คืน ช่วงปิดเทอมการศึกษาปี 2568 ชมการแสดงรถยนต์แนวตกแต่ง มหกรรมอาหาร มหกรรมกาแฟ Craft Coffee ฟรีคอนเสิร์ต สินค้าและผลไม้ตามฤดูกาล กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวจังหวัด โรงแรม ร้านอาหาร คาราโอเกะ ร้านเล็ก รายย่อย รถเข็นได้ประโยชน์ คาดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 30 ล้าน
เมื่อเร็วๆนี้ ที่ศาลาประชาคมจังหวัดอุตรดิตถ์ นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ นายบุญธรรม กอนโภชน์ ประธานชมรมมอเตอร์สปอร์ต นายอดิศักดิ์ มะซอ บริษัท ฟาอีส ยูไนเต็ด มอเตอร์ สปอร์ต จำกัด นายสำราญ เอื้อจิรวาณิชย์ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเมืองอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย นายพิษณุ ลาภชัยเจริญกิจ ประธานหอการค้าจังหวัดอุตรดิตถ์ นายปฏิภาณ อนันต์รัตนสุข ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด นางสรรวรส พุทธเจริญลาภ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดรถเล็ก บริษัท อีซูซูเซลส์ จำกัด และ นายภูดิท ธุวะชาวสวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บ้านไร่1308 จำกัด นายไพโรจน์ ทองอินทร์ ผู้จัดการบริษัท เอ็กซ์พลอร่าร์ จำกัด นายนันทสิทธิ์ โพธิ์งาม รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมแถลงข่าวการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ ชิงถ้วยพระราชทาน ประทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แชมป์ประจำปี ในรายการ “อุตรดิตถ์โตโยไทร์ เอ็กซ์พลอร่าร์ เรซซิ่งคาร์ไทยแลนด์ เฟสติวัล ครั้งที่ 1” “UTTARADIT RACING CAR THAILAND FESTIVAL”
รอบเก็บสะสมคะแนนระหว่างวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2568 ช่วงปิดเทอม ภายในงานมีการแสดงรถยนต์แนวตกแต่ง มีการจัดกิจกรรมการต่างๆ การออกร้านขายอาหาร สินค้า ผลไม้ตามฤดูกาล รับรองการแข่งขันโดยราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬา (ร.ย.ส.ท.) วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการยกระดับจังหวัดอุตรดิตถ์ ให้รู้จักมากยิ่งขึ้นทั้งภายในและต่างประเทศหรือระดับโลก เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดอุตรดิตถ์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชายไทยและต่างชาติ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในพื้นที่ เปิดโลกทรรศน์การเรียนรู้ พร้อมอบรมการการขับขี่ให้กับคนในพื้นที่ สร้างความสามัคคีร่วมมือร่วมใจในทุกภาคส่วน การมีส่วนร่วมกิจกรรมแข่งขัน เป็นการจัดการแข่งขันให้กับนักแข่งในจังหวัดและภาคเหนือเป็นรุ่นพิเศษ พบกับขบวนพาเหรดรถยนต์ และคนในจังหวัดอุตรดิตถ์ได้สัมผัสการแข่งขัน เปิดโอกาสให้นักแข่งในจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้มีการโอกาสร่วมทำการแข่งขันกับรายการ และเปิดโอกาสให้นักศึกษาในจังหวัดได้ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
สำหรับเส้นทางแข่งขัน จะทำการปิดถนนโดยรอบสนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหักและสวนสาธารณะเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ให้เป็น CITY STREET CIRCUIT จุดเริ่มสตาร์ทที่บริเวณหน้าอนุสาวรีย์ชัยพระยาพิชัยดาบหักวิ่งไปจนถึงหน้าโรงเรียนอุตรดิตถ์ เลี้ยวขวา หน้าตึก NT เลี้ยวขวาเข้าสู่เส้นขนานทางรถไฟ ไปกลับรถหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เลี้ยวซ้ายเข้าซอยข้างสนามกีฬาเลี้ยวซ้ายไปกลับรถหน้าโรงเรียนอุตรดิตถ์ดรุณี กลับมาเข้าทางตรงมุ่งสู่เส้นชัยที่จุด FINISH บริเวณหน้าอนุสาวรีย์พระย่าพิชัยดาบหักรวมระยะทาง 1.8 – 2 กิโลเมตร กิจกรรมนี้ จะมีรถยนต์เข้าร่วมแข่งขัน จำนวน 400 คัน ทั้งรถยนต์เก๋งและรถยนต์กระบะ มากกว่า 20 รุ่น และคาดว่าจะมีเงินสะพัดหมุนเวียนในจังหวัดอุตรดิตถ์ ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
นายศิริวัฒน์ กล่าวว่า ทางจังหวัดอุตรดิตถ์ได้มีความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งหลายพร้อมตกลงร่วมกันว่า จะมีการจัดกิจกรรมรถยนต์ทางเรียบ ชิงถ้วยพระราชทาน ประทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แชมป์ประจำปี ในรายการ “อุตรดิตถ์โตโยไทร์ เอ็กซ์พลอร่าร์ เรซซิ่งคาร์ไทยแลนด์ เฟสติวัล ครั้งที่ 1” “UTTARADIT RACING CAR THAILAND FESTIVAL” รอบเก็บสะสมคะแนนระหว่างวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2568 ช่วงปิดเทอมใหญ่ของนักเรียน ปีการศึกษา 3568 เพื่อเปิดมิติทางการกีฬาแห่งใหม่ในจังหวัดอุตรดิตถ์
นายศิริวัฒน์ กล่าวว่า การจัดการแข่งขันกีฬาในลักษณะนี้เชื่อว่า เป็นการเปิดตัวการท่องเที่ยวของจังหวัดอุตรดิตถ์อีกทางหนึ่ง ด้วยนโยบายของรัฐบาลได้มอบหมายให้ทุกจังหวัดพยายามเปิดตัวดิสไนท์ที่อุตรดิตถ์ให้ได้ ทางจังหวัดเห็นว่ากิจกรรมนี้ก็สอดคล้องและเกิดประโยชน์ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว หากพูดถึงความพร้อมของจังหวัดอุตรดิตถ์ ในเรื่องของสนามการแข่งขันที่มีลักษณะ STREET RACING CAR ซึ่งหาไม่ได้ง่ายกับจังหวัดที่มีความพร้อมเช่นเดียวกับจังหวัดอุตรดิตถ์ จากที่ได้ชมแผนผังในเรื่องถนนและของสภาพแวดล้อมในเรื่องของกายภาพ
“ ในเรื่องของการท่องเที่ยวในจังหวัดอุตรดิตถ์ เราพยายามเปิดตัวให้ 365 วัน สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาล การจัดงานครั้งนี้ช่วงวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2568 เป็นช่วงที่ทุเรียนหลง-หลินลับแล ออกผลผลิตแล้ว ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่เข้ามายังจังหวัดอุตรดิตถ์ ในช่วงของการจัดการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ ไม่ได้เพียงแค่ชมการแข่งขันรถยนต์ ยังสามารถเที่ยวชมสิ่งต่างๆที่เป็นมิติใหม่ของจังหวัดอุตรดิตถ์ ในหลากหลายการท่องเที่ยวเชิงสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ สำหรับห้องพัก ร้านอาหาร ได้มีการจัดเตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว วัตถุประสงค์สำคัญของการจัดงานครั้งนี้ จะทำให้การท่องเที่ยวมีโฉมใหม่ จังหวัดอุตรดิตถ์จะมีการพัฒนาเศรษฐกิจรายได้และเปิดตัวจังหวัดให้เป็นที่รู้รับทราบของทุกคน” ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าว
นายบุญธรรม กล่าวว่า รายการ UTTARADIT RACING CAR THAILAND FESTIVAL ตนอยู่จังหวัดอุตรดิตถ์ มาตั้งแต่เล็กจนโต ตอนนี้อายุเข้า 60 ปี อยากทำให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักจังหวัดอุตรดิตถ์ไปทั่วประเทศและทั่วโลก เกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ที่เคยไปแข่งรถหลายที่ หลายคนถามว่าอยู่ที่ไหน ตอบไปว่าอยู่อุตรดิตถ์ โดนถามกลับว่าอยู่ติดกับอุดรใช่ไหม รู้สึกน่าเคืองจัง
“ สุดท้ายมีแนวความคิดว่า ได้ไปแข่งรถมาแล้วจะทำอย่างไรให้จังหวัดอุตรดิตถ์เป็นที่รู้จักของชาวมอเตอร์สปอร์ตและประชาชนทั่วประเทศและชาวต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น ตอนนี้เศรษฐกิจในจังหวัดอุตรดิตถ์เงียบมาก โดยเฉพาะกลางคืนเวลา 2 ทุ่ม ออกไปไหนจะเงียบเลย อยากให้รู้ว่าวัตถุประสงค์หลักของการจัดงานนี้ เพื่อเป็นการยกระดับจังหวัดอุตรดิตถ์ให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ตอนแรกที่จัดเป็นงานระดับจังหวัด ตอนนี้เป็นงานระดับประเทศไปแล้ว รถแข่งที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้มาด้วยกันกว่า 300 คัน ซึ่งไม่ธรรมดา เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัด อาทิ พระแท่นศิลอาสน์ พระยาพิชัยดาบหัก ถิ่นสักใหญ่ของโลก บ่อเหล็กน้ำพี้ เมืองลับแล ที่หลายคนในประเทศไทยยังไม่รู้จัก เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดอุตรดิตถ์ให้มีการขยับตัวเพิ่มขึ้น” นายบุญธรรม กล่าว
นายบุญธรรม กล่าวว่า วันที่ 1-4 พฤษภาคม 2568 ภายในงานไม่ได้ปิดถนนเพื่อแข่งรถเพียงอย่างเดียว แต่จะมีวิ่งรันไนท์ช่วงเวลาตอนกลางคืน ในแพคสนามแข่งรถ มีมินิมอตเรอ์โชว์ให้ชม โดยสภาอุตสาหกรรมเป็นผู้รับเรื่องดำเนินการ มหกรรมอาหาร มหกรรมกาแฟ Craft Coffee หรือ กาแฟคราฟต์ ดำเนินการโดยหอการค้า ในวันศุกร์กับวันเสาร์ที่ 2-3 พฤษภาคม 2568 จะมีคอนเสิร์ตคืนละ 2 วง เป็นการแสดงแบบฟรีคอนเสิร์ต พร้อมกิจกรรมการแสดงของนักเรียนชั้นมัธยม วิทยาและมหาวิทยาลัยในพื้นที่อุตรดิตถ์ มีเชียร์ลีดเดอร์ จำนวน 4 โรงเรียน
“ การแข่งขัน RACING CAR THAILAND ครั้งนี้ เป็นการนำรถยนต์เก๋งและรถยนต์กระบะปิกอัพ ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซลเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมดจำนวน 350-400 คัน มีตั้งแต่รุ่นเครื่องยนต์ 1500 จูเนียร์ 1500 โอเพ่น 3000 โอเพ่น 3000 ขนาดเล็ก รุ่นละ 20-30 คัน การแข่งขันแต่ละรุ่นวิ่งประมาณ 10-15 รอบสนาม
สำหรับเรื่องความปลอดภัย ขอให้ทุกท่านสบายใจได้ว่า ในการดูแลความปลอดภัยด้านการแข่งรถภายในสนามครั้งนี้ โดยราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬา (ร.ย.ส.ท.) จะเข้ามาดูแลในเรื่องสนาม เรื่องแบริเออร์ สนามไม่อนุญาตให้คนยืนเกาะอยู่ด้านข้างสนามดูได้ คนดูจะต้องอยู่สนามฟุตบอลเท่านั้น ไม่มีออกมายังฟุตบาต ส่วนที่บริเวณฟุตบาตก็จะมีแท่งปูนแบริเออร์ การ์ดเรียวเหล็ก 2-3 ชั้น พร้อมตะแกรงเหล็ก จุดคนชมจะมีตะแกรงเหล็กปิดกันทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยของผู้ชม 100% โดยมีคณะกรรมการราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย เป็นผู้ตรวจสนามก่อนทำการแข่งขันด้วยตัวเอง” ประธานชมรมมอเตอร์สปอร์ต กล่าว
นายบุญธรรมกล่าวด้วยว่า วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ทางคณะกรรมการจัดงานพยายามจะดึงนักแข่งรถพร้อมคนงาน จำนวน 3,000-4,000 คน ให้อยู่ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ถึง 4-5 วัน เพื่อให้ใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวในจังหวัดอุตรดิตถ์ ยังสถานที่ท่องเที่ยวและร้านคาราโอเกะ ร้านอาหาร เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนสะพัดเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในงานครั้งนี้ด้วย
“ สำหรับโรงแรมที่พักรู้สึกหนักใจนิดนึง โรงแรมสถานที่พักจำนวนห้องในจังหวัดอุตรดิตถ์มีเพียงแค่ 1,900 -2,000 ห้องในระบบ แต่เราต้องการจำนวน 2,500 ห้อง เพื่อเป็นการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา ต้องต้องกระจายเพิ่มห้องพักไปยังพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ อำเภอศรีสัชนาลัยหรือพื้นที่ไม่เกิน 30 กิโลเมตรที่อยู่ติดกับจังหวัดอุตรดิตถ์ ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการจัดงานได้มีการประเมินเงินหมุนเวียนสะพัดภายในจังหวัดอุตรดิตถ์ ตั้งแต่วันที่ 1-4 พฤษภาคม 2568 จำนวน 4 วัน ประมาณไม่ต่ำกว่า 30-40 ล้านบาท เนื่องจากจังหวัดอุตรดิตถ์อยู่ตรงกลางและเป็นไข่แดงระหว่าง จังหวัดอุตรดิตถ์เป็นไข่แดงอยู่ตรงกลางระหว่างพิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน เพชรบูรณ์”
ประธานชมรมมอเตอร์สปอร์ต กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ ผู้จัดการไม่ได้ของบประมาณจากทางจังหวัดอุตรดิตถ์ แต่จะหางบมาให้ ซึ่งเป็นงบจากรายได้ของสปอนเซอร์ทั้งหลายนำมาจัดสร้างสนามแข่งขัน หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว จะมอบเงินทั้งหมดให้กับมูลนิธิศาลหลักเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ อยากให้มันใจได้ว่า ทุกภาคส่วนจะได้รับประโยชน์จากการจัดการแข่งขัน RACING CAR THAILAND ครั้งนี้ ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร พ่อค้า แม่ค้าทั่วไปที่เป็นรายเล็กรายย่อยรถเข็นทุกภาคส่วนจะได้ประโยชน์
