Image6 12
Getting your Trinity Audio player ready...

ชาวบ้านถือป้ายขับไล่ “ผญบ.ลาออกไป” ทุจริตโกงกินเงินวัด เหมือนคนบาป ทำงานไม่โปร่งใส เราไม่ต้องการ ร้องหาความยุติธรรมให้จังหวัดดำเนินการ นอ.บ้านโคก สอบเอาผิดผู้ใหญ่บ้านกว่า 6 เดือนนานไป เหมือนช่วยเหลือกัน 3 แม่ลูก เจอพี่สาวผู้ใหญ่บ้านรังควานข่มขู่ถึงบ้าน ทำให้รู้สึกกลัว เรียกร้องให้จังหวัดตั้งกรรมการคนนอก ปกครองจังหวัด ตำรวจ ทหาร สำนักพุทธศาสนา หน่วยงานเกี่ยวกับงบประมาณ  4-7 ชุด สอบ 7 ประเด็นที่ชาวบ้านร้อง คาดไม่เกิน 3 เดือนเสร็จ

Image7 8 Image8 10 Image10 9Image4 7Image6 11

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2567 นางเสวียน  บุตรที ส.อบต. ม่วงเจ็ดต้น พร้อมด้วยชาวบ้านม่วงเจ็ดต้น ประมาณ 40 คน รวมตัวกันบริเวณที่ว่าการอำเภอบ้านโคก พร้อมถือแผ่นป้ายข้อความระบุว่า “ลาออกไป เราไม่ต้องการผู้ใหญ่บ้านทุจริต”  “นายอำเภอต้องยุติธรรม ผู้ใหญ่บ้านต้องลาออก” เงินโควิดไม่โปร่งใส ลาออกไป” “น้ำประปาไม่โปร่งใส ทำบุญกองข้าวไม่โปร่งใส” “ลาออกไป เราไม่ต้องการผู้ใหญ่บ้านทุจริต” “ทุจริตโกงกินเงินวัด เหมือนคนบาป” เพื่อเป็นการทวงถามความคืบหน้ากรณีร้องเรียนให้มีการตรวจสอบการทุจริตต่อหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน 7 ข้อกล่าวหา ตามที่ได้เคยยื่นเรื่องร้องเรียนไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมาดังนี้ 1.การรับเงินบริจาคก่อสร้างองค์พระรอบสำนักสงฆ์ (วัด) 2.ตรวจสอบเงินเมรุ ตั้งแต่เป็นผู้ใหญ่บ้านมา ได้เก็บรวบรวมเงินเอาไว้เพียงคนเดียว มีเงินอยู่จำนวนเท่าไหร่ ใช้จ่ายไปแล้วเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ 3.เงินค่าน้ำประปา ที่มีการเก็บจากชาวบ้านไป ไม่มีการชี้แจงให้ชาวบ้านรับรู้ ยอดเงินเก็บได้เท่าไหร่ ใช้จ่ายเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ 4.เงินเยียวยารักษาโควิด เป็นโครงการของรัฐบาลที่ขอมาช่วยเหลือชาวบ้าน และเยียวยาปากท้องของชาวบ้าน รับมาเท่าไหร่ ใช้จ่ายส่วนใดบ้าง ยังไม่มีการชี้แจง 5.เงินทำบุญกองข้าวเปลือกตามประเพณีของทุกปี มีการเก็บรวบรวมเงินเอาไว้เอง โดยทางวัดและคณะกรรมการไม่มีส่วนรู้เห็น ได้เงินจำนวนเท่าไหร่ ใช้จ่ายไปเท่าไหร่และเหลือเท่าไหร่ ไม่เคยชี้แจงให้ชาวบ้านทราบ 6.เงินบริจาคของชาวบ้านภายในหมู่บ้านเพื่อเทพื้นหน้าเมรุ รับเงินบริจาคไปแล้วเก็บไว้เอง โดยไม่ได้ดำเนินการใดเลย และไม่เคยชี้แจงให้ชาวบ้านทราบ 7.ขอให้ตรวจสอบการทุจริตเงินหมู่บ้านอาสาพัฒนาป้องกันตนเอง (อพป.) ของชุมชนในหลายปีที่ผ่านมา ขอให้ตรวจสอบพร้อมชี้แจงชาวบ้านด้วย ในวันนี้ชาวบ้านจึงต้องรวมตัวกันมาสอบถามนายอำเภอบ้านโคกว่า ได้ดำเนินการสอบสวนเอาผิดกับผู้ใหญ่บ้านไปถึงไหนแล้ว

โดย นายวันชัย  เกตุแก้ว นายอำเภอบ้านโคก พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมบูรณ์  คล่องใจ ผกก.สภ.บ้านโคก ได้ยื่นรอพบชาวบ้านอยู่ที่บริเวณลานกว้างของที่ว่าการอำเภอ พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ อส. เจ้าหน้าที่ ชรบ.เจ้าหน้าที่ตำรวจรวมเกือบ 100 นาย ปิดทางเข้าออกบริเวณที่ว่าการอำเภอบ้านโคก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มชาวบ้านที่มารวมตัวกัน ในการรับฟังผลการสอบสวนตามที่มีการนัดหมายไว้ และไม่ต้องการให้บุคคลที่สามสวมรอยเข้ามาสร้างความวุ่นวายภายในพื้นที่

จากนั้น นายวันชัย  นายอำเภอบ้านโคก ได้เปิดโอกาสให้ชาวบ้านพูดถึงปัญหาและข้อเรียกร้องที่ต้องการ นางเสวียน ส.อบต.ม่วงเจ็ดต้น ได้เดินเข้าหานายอำเภอบ้านโคก และกล่าวกับนายอำเภอว่า “ชาวบ้านไม่มีความเลื่อมใสผู้ใหญ่บ้านแล้ว ให้ลาออกไปอย่างเดียว ต้องลาออกไปอย่างเดียว และวันนี้จะมาทวงถามว่า การดำเนินการตามที่ชาวบ้านร้องเรียน 7 ข้อไปถึงไหนแล้ว

นายวันชัย นายอำเภอบ้านโคก ชี้แจงต่อชาวบ้านที่มารวมตัวกันว่า ทางอำเภอได้ดำเนินการให้ชาวบ้านตั้งแต่รับเรื่องแล้ว พร้อมชี้แจงว่า เบื้องต้นหลังรับเรื่องร้องเรียนได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านในฐานะผู้ถูกร้องรับทราบและเข้าชี้แจง ในส่วนนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว ขั้นตอนที่สองเชิญคู่กรณีคือผู้ร้องและทีมงาน พร้อมเจ้าอาวาสวัด(สำนักสงฆ์)ล้านช้าง พูดคุยกันถึง 2 ครั้ง อธิบายขั้นตอนการดำเนินงานของทางราชการจะต้องทำอะไรบ้าง ที่ร้องเรียนมาทั้ง 7 ข้อ อำเภอต้องสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดว่า เป็นไปตามที่ร้องเรียนหรือไม่อย่างไร ผู้ใหญ่บ้านจะชี้แจงอย่างไร ระยะเวลาแต่ละประเด็น จะมีข้อมูลส่งมาให้อำเภอนานมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะกรณีของเงินวัด เงินมีที่มาที่ไปและการดำเนินการอย่างไร  รวมถึงผู้ใหญ่ บ้านนำเงินไปใช้จริงไหม โดยสอบให้ครบทั้ง 7 ประเด็น จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย กรรมการผู้สอบจะตรวจสอบว่า มีข้อเท็จจริงถูกต้องมากน้อยแค่ไหน หากมีและเข้าความผิดวินัย ก็จะตั้งคณะ กรรมการสอบเอาผิดวินัยต่อไป ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ การสอบให้ครบทั้ง 7 ประเด็น ต้องใช้เวลานานกว่า 6 เดือนขึ้นไป ยังไม่สามารถบอกได้ว่า จะใช้เวลานานแค่ไหนขึ้นอยู่กับการสอบสวนที่จะสรุปออกมาแต่ข้อตามที่ชาวบ้านร้อง

Image25 5 Image26 5 Image29 5 Image32 5 Image35 2

ระหว่างที่ นายวันชัย  นายอำเภอบ้านโคก ชี้แจงอยู่นั้น ชาวบ้านได้โต้แย้งถึงที่มาชุมนุมก็ต้องมีข้อเท็จจริงว่า ผู้ใหญ่บ้านมีอะไรที่บกพร่องบ้าง ระหว่างที่รอก็ให้ผู้ใหญ่บ้านพักหน้าที่ไปก่อน นายอำเภอชี้แจงว่า การพักหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านมีข้อระเบียบและกฎหมายที่ทางราชการกำหนดเอาไว้ การพักหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านได้ ผู้ใหญ่บ้านคนนั้นจะต้องถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยอย่างร้ายแรง จึงจะพักหน้าที่ได้ ที่ผ่านมาทางอำเภอบ้านโคกได้สั่งพักหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านไปแล้ว 1 ราย ตั้งแต่ที่ตนมารับตำแหน่งนายอำเภอบ้านโคกเป็นเวลา 1 ปีแล้ว ไม่ระบุว่าที่ไหน เป็นกรณีที่มีการร้องเรียนแบบนี้ สอบไปสอบมา กรรมการสอบข้อเท็จจริงสอบเสร็จเสนอว่า “มีความผิดทางวินัย” เมื่อมีความผิดทาวินัยก็เสนอจังหวัดตั้งกรรมการสอบเอาผิดวินัยอย่างร้ายแรง ก็จะเข้าเงื่อนไขของระเบียบกฎหมาย อำเภอก็สั่งพักหน้าที่ แต่เรื่องที่ชาวบ้านร้องมานี้ ยังไม่อยู่ขั้นตอนนั้น หากถึงขั้นสอบวินัยร้ายแรง ทางอำเภอก็ต้องสั่งพักหน้าที่ผู้ใหญ่บ้าน ทั้งนี้ ชาวบ้านกล่าวเสริมว่า ต้องการให้มีคณะกรรมการระดับจังหวัดเข้ามาร่วมสอบเอาผิดผู้ใหญ่บ้านในครั้งนี้ด้วย นายอำเภอกล่าวเรื่องนี้ว่าเป็นอำนาจของนายอำเภอ หากเป็นความประสงค์ของชาวบ้านให้ทำหนังสือแจ้งขึ้นมา

น.ส.กัญญากร เกตุกาญจน์  ชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านได้มาทวงถามความคืบหน้า 7 หัวข้อที่มีการร้องเรียนผ่านนายอำเภอบ้านโคกไปแล้ว ชาวบ้านอยากได้ความจริงใจจากผู้ใหญ่บ้าน ความซื่อสัตย์ ความโปร่งใส และอยากได้จากนายอำเภอด้วยว่า ตรงนี้ผิดจริง อยากให้ทำเรื่องกระชับขึ้น ชาวบ้านรอด้วยความหวังจริงๆสิ่งที่ชาวบ้านทำขึ้นมาไม่ได้ทำเพื่อตนเองหรือเพื่อใคร แต่เราอยู่จุดนั้น เราเห็นว่าสิ่งไหนถูกต้อง สิ่งไหนไม่ถูกต้อง มันมีข้อมูลสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผู้ใหญ่ก็เซ็นรับความผิดเป็นเอกสารด้วยตัวของผู้ใหญ่บ้านเอง กรณีทุจริตนำเงินบริจาควัดไปใช้ แต่มาถึงที่อำเภอมันล่าช้า ชาวบ้านกังวลตรงส่วนนี้มันล่าช้า มันจะมีอะไรที่ทำให้มันผิดเพี้ยนไปหรือป่าวหรือมีคนช่วย ผู้ใหญ่บ้านทำงานจุดนี้มาเยอะรู้กว่าชาวบ้าน ไม่รู้เลยหรือว่าสิ่งที่ทำถูกหรือผิด สิ่งที่วิตกกังวลคือ ความยุติธรรมชาวบ้านจะได้จริงๆหรือป่าว คนที่ผิดจะยอมรับไหม ซึ่งทุกอย่างมันมีความเป็นจริงอยู่แล้ว แต่ตรงนั้นความยุติธรรมมันมีจริงอยู่หรือป่าว ชาวบ้านจะได้จริงๆไหมจากนายอำเภอเกี่ยวกับเงินวัด เกี่ยวกับเงินหมู่บ้าน เงินค่าน้ำประปาหมู่บ้านและเงินเมรุเผาศพ รวม 7 ข้อ 7 ประเด็น ยังมีสิ่งเล็กๆที่ยังไม่ได้มีการร้องเรียนเสนอนายอำเภอไป รามความเสียหายครั้งนี้ทั้งระบบ ทั้งหมดเป็นเงินกว่า 400,000-500,000 บาทขึ้นไป เรื่องที่เกิดขึ้นยังไม่รู้ว่ามีการทุจริตมานานแค่ไหนแล้ว ความยุติธรรมในหมู่บ้าน ชาวบ้านอยากได้และอยากเห็นจริงๆ

“ถ้าผู้ใหญ่บ้านไม่ผิดชาวบ้านพร้อมให้อยู่ต่อ อยู่ได้เลย เราไม่อยากให้เอาประชาชนมาชุมนุมเพื่อขัดแย้งกันเอง เพื่ออะไร ทำไมผู้ใหญ่บ้านไม่รับผิดชอบการกระทำของตนเอง แค่ผู้ใหญ่บ้านออกมารับผิดชอบจุดนี้ ชาวบ้านยอมถอยเพราะได้ข้อมูลจริงมาแล้ว เรียกร้องให้ลาออก ถ้าผู้ใหญ่บ้านทำผิดจริงสมควรดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านต่อไปอีกหรือ ความเป็นผู้ใหญ่บ้านไม่มีแล้ว ในเมื่อมีการทุจริตต่อหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านเอง จะไม่สามารถปกครองคนในหมู่บ้านได้ เราไม่ใช่พวกเขาหรือคนของเขาจะอยู่กันอย่างไร จะก้าวขึ้นมาเอ่ยปากอะไรได้ ในเมื่อไม่เห็นความยุติธรรมเลย

อยากให้นายอำเภอแจ้งมาเลยว่าจะเสร็จสิ้นประมาณเดือนไหน กี่เดือน 2-3 เดือน แต่ 5-6 เดือนมันยาวไปชาวบ้านรอนานเกินไป เราไม่รู้ว่าความยุติธรรมข้างใน คุณจะไปคุยอะไรกันหรือป่าว ชีวิตที่อยู่ในหมู่บ้านตอนนี้แบ่งเป็นพรรคเป็นพวก เราเป็นคนกลุ่มน้อยที่เสนอตรงนี้ขึ้นมาจะอยู่ยังไง เมื่อกลุ่มผู้ใหญ่เป็นกลุ่มใหญ่มาก”

Image3 4 Image5 9 Image9 11 Image11 9 Image13 6

นางวาสนา  ศาสตร์มานพ กล่าวว่า โดยข่มขู่ไม่ให้เข้ามายุ่ง อยากให้เลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน ไม่อยากเกิดคดีความอย่าได้ไป หากเกิดคดีความไม่คุ้มเสีย โดยพูดให้เรากลัวไม่อยากมา แถมยังบอกว่ามีคนคอยช่วยเหลือเขาอยู่ข้างหลัง นิ่งๆอยู่นี้เตรียมเรื่องที่จะดำเนินคดีเหมือนกัน คนที่ข่มขู่เป็นพี่สาวของผู้ใหญ่บ้าน ทั้งที่ตอนนั้นยังไม่ได้เรียกเข้ามาในบ้าน ลูกๆเล่นกันอยู่ภายในบ้าน แจ้งให้ทราบว่า “แม่มีคนมาหา” ขณะอยู่ภายในห้องน้ำยังไม่ได้ออกมา แต่เขาไปนั่งรออยู่ภายในบ้านแล้ว รู้สึกไม่สบายใจที่เขามาข่มขู่ เพราะเราอยู่กัน 3 คนแม่ลูก มาขู่เราแบบนี้ก็รู้สึกกลัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านที่มาทวงถามความคืบหน้าจากนายอำเภอบ้านโคก หวั่นเรื่องคดีทุจริตของผู้ใหญ่บ้านเรื่องเงินวัดและเรื่องอื่นอีก 7 ข้อ จะไม่ได้ความยุติธรรมจากอำเภอ โดยเฉพาะการตั้งกรรมการสอบที่ทางอำเภอใช้เวลานานกว่า 6 เดือน และยังไม่รู้ทิศทางว่าจะแล้วเสร็จหรือไม่ การสอบก็ใช้เวลานานเกินไป ความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านผู้ร้องกับผู้ใหญ่บ้านจะปกครองและอยู่กันอย่างไร โดยที่ไม่มีการสั่งพักหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านไปก่อน แถมยังมีเรื่องข่มขู่ระรานชาวบ้านไปทั่ว สร้างอิทธิพลและพยายามหาเรื่องข่มเหงรังแกตลอด ความแตกแยกภายในหมู่บ้านนับวันรุนแรงมากเพิ่มขึ้น อยากเรียกร้องทางจังหวัดตั้งคณะกรรมการสอบในแต่ละชุดแยก 7 ชุด หรือ 4 ชุดใน 7 ประเด็นตามที่ชาวบ้านร้องเรียน โดยขอให้คณะกรรมการสอบเป็นคนนอกพื้นที่ มาจากหลายหน่วยงาน เช่น ปกครองจังหวัด ตำรวจ ทหารสำนักพุทธศาสนาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ แยกสอบแต่ละชุดให้สอบลึกถึงเส้นทางการเงินผู้ใหญ่บ้าน เงินที่ได้รับจากชาวบ้านและเงินหลวงที่ให้การสนับสนุน ได้มาและใช้จ่ายออกไปอย่างไร สอบชาวบ้านในพื้นที่รวดเดียวครั้งเดียวใช้เวลาไม่นานถึงสัปดาห์ก็เสร็จสิ้นแล้ว สอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่น่าจะเกิน 2 สัปดาห์ เพราะอยู่ระบบราชการอยู่แล้ว ทุกชุดการแยกสอบไม่น่าจะใช้เวลาเกิน 3  เดือน ก็สามารถสรุปความเห็นได้แล้ว การที่อำเภอใช้เวลา 6 เดือน คณะกรรมการเพียงชุดเดียว ลากยาวกว่า 6 เดือน ไม่เสร็จเหมือนเป็นการช่วยเหลือกัน การพักหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านไว้ก่อน เป็นการช่วยลดความขัดแย้งและเรื่องข่มขู่คนในหมู่บ้านได้ ยิ่งหากผู้ใหญ่บ้านลาออก ความขัดแย้งกับชาวบ้านหรือเรื่องข่มขู่ก็จะหมด ความสงบในหมู่บ้านก็จะเกิดขึ้นทันที ส่วนการสอบวินัยก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่และคณะกรรมการสอบเอาผิดวินัยต่อไป.

Facebook Comments Box

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า