
Getting your Trinity Audio player ready...
|
“ด่านภูดู่ อุตรดิตถ์ คึกคัก” แรงงานภาคการเกษตร “ชนเผ่าขะมุ” แขวงไขยบุรี แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว แห่กลับบ้านเที่ยวเฉลิมฉลองปีใหม่ หลังมาค้าแรงงานเมืองลับแลนาน เกือบ 1 ปี รับจ้างดูแลบำรุงรักษาต้นไม้และบำรุงดิน ต้นลางสาด ลองกอง ทุเรียนและมังคุด พืชเศรษฐกิจ สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดอุตรดิตถ์ สร้างเศรษฐกิจและรายได้ให้กับคนในพื้นที่ปีละไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2566 ที่บริเวณด่านภูดู่ ต.ม่วงเจ็ดต้น อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ นายสุฑณ ดวงตาน้อย. นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ม่วงเจ็ดต้น เดินทักทายสอบถามกลุ่มแรงงานภาคการเกษตรชาวลาวชนเผ่าขะมุ และผู้ใช้แรงงานลาวทั่วไป แขวงไขยบุรีและแขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) เป็นกลุ่มแรงงานภาคการเกษตรที่เข้ามาค้าแรงงานในพื้นที่ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ รับจ้างเกี่ยวกับการดูแลบำรุงรักษาต้นไม้และบำรุงดิน ให้กับต้นผลไม้ลางสาด ลองกอง ทุเรียนและมังคุด พืชเศรษฐกิจผลไม้สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดอุตรดิตถ์ สร้างเศรษฐกิจและรายได้ให้กับคนลับแลปีละไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์หลิน-หลง ทุเรียนพันธ์หมอนทองลับแล รวมไปถึงผลไม้ลางสาด-ลองกองและมังคุดด้วย
โดยมีผู้ใช้แรงงานทั้งจากชนเผ่าขมุและผู้ใช้แรงงานลาวทั่วไป จำนวนเกือบ 100 คน ต่างขนสัมภาระสิ่งของเครื่องใช้ ยืนรอรถสองแถวไทยวิ่งรับส่งผู้โดยสาร จากด่านพูดู่สากล เมืองปากลาย แขวงไชยบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากด่านภูดู่ไทย ต.ม่วงเจ็ดต้น อ.บ้านโคก ประมาณ 1 กิโลเมตร วิ่งรับกลับไปที่ด่านพูดู่ลาว เพื่อเดินทางต่อยังบ้านเกิดพื้นที่แขวงไชยบุรีและแขวงบ่อแก้ว กลับไปเฉลิมฉลองเที่ยวปีใหม่สากล(ลาว) /2024 หรือ 2567 เช่นเดียวกับปีใหม่สากล(ไทย) สร้างความคึกคักให้กับด่านชายแดนภูดู่ไทยขึ้นมาทันที ซึ่งกลุ่มผู้ใช้แรงงานชาวลาวส่วนใหญ่จะกลับไปเที่ยวเฉลิมฉลองปีใหม่ลาวและหยุดพักผ่อนเป็นเวลา 1 เดือน ถึงจะกลับมาใช้แรงงานต่อในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์จนถึงใกล้เทศกาลปีใหม่สากลลาว จึงจะกลับไปเที่ยวบ้านอีกครั้งในเดือนธันวามคมปลายปี 2024 หรือ 2567.