|
Getting your Trinity Audio player ready...
|
มูลนิธิชัยพัฒนา สมาคมแนวร่วมผู้ค้าสลากคนพิการและผู้ด้อยโอกาส สมาคมจิราพรอาชีพค้าสลาก สมาคมสหภาพคนตาบอดและจัหวัดอุตรดิตถ์ร่วมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติฯ ในหลวง ร.10 พรรษา 6 รอบ 72 พรรษา จำนวน 572 ต้น เพื่ออนุรักษ์พันธุ์ไม้ ฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ที่เสื่อมโทรมให้ฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 ที่อุทยานบ้านเกิดพระยาพิชัยดาบหัก หมู่9 บ้านห้วยคา ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ นางสาววรางศิญา กองนิมิต ผู้อำนวยการประสานงานโครงการมูลนิธิชัยพัฒนาประธานในพิธีเปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ ถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2567 ทรงพระเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา พร้อมนายอุดร วงษ์อ่อนสนิท นายกสมาคมแนวร่วมผู้ค้าสลากคนพิการและผู้ด้อยโอกาสในประ เทศไทย นายชัยวัฒน์ หวานคำ นายกสมาคมจิราพรอาชีพค้าสลาก ร้อยเอกนิตย์ชาญ สุปินะ นายกสมาคมสหภาพคนตาบอดในประเทศไทย เพื่อการสร้างงานสร้างอาชีพ นายชูเกียรติ สิงห์สูง กรรมการสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย นายสุรศักดิ์ วงศ์ตั้งนายอำเภอพิชัย พันตำรวจเอกโยธิน ยากองโค ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพิชัย ข้าราชการ พนักงาน รัฐวิสาหกิจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหาร สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มพลังมวลชน พสกนิกรชาวอำเภอพิชัย ถวายกล่าวราชสดุดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงสดุดีจอมราชา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในโครงการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาส ทรงพระเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ
นายอุดร วงษ์อ่อนสนิท นายกสมาคมแนวร่วมผู้ค้าสลากคนพิการและผู้ด้อยโอกาสในประเทศไทย ในนามคณะกรรมการบริหารสมาคม กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ จึงดำเนินการจัดโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างสมพระเกียรติ เพื่อน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชปณิธาน และพระบรมราโชบายเกี่ยวกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้อยู่ดีมีสุข โดยมุ่งเน้นให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด ทั้งนี้ รัฐบาลได้เลือกโครงการขนาดใหญ่ รับผิดชอบดำเนินโครงการ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติฯ และโครงการแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ 72 แห่งเฉลิมพระเกียรติ
เนื่องด้วยสมาคมแนวร่วมผู้ค้าสลากคนพิการและผู้ด้อยโอกาสในประเทศไทย ร่วมกับสมาคมจิราพรอาชีพค้าสลาก ได้จัดโครงการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา หมุนเวียนไปตามสถานที่ต่างๆ ตลอดมา โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1.เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 2.เพื่อสืบต่อเจตนารมณ์ที่สมาคมแนวร่วมผู้ค้าสลากคนพิการและผู้ด้อยโอกาสในประเทศไทยและสมาคมจิราพรอาชีพค้าสลากได้ปฏิบัติร่วมกันมา 3.เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดความสมดุล 4.เพื่อส่งเสริมความสามัคคีความร่วมมือระหว่างหมู่คณะ 5.เพื่ออนุรักษ์พันธุ์ไม้ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสถานที่สาธารณะ วัดและชุมชน ในการจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสม เด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งนี้ มีจำนวนต้นไม้ที่นำมาปลูก รวม 572 ต้น โดยแยกประเภทดังต่อไปนี้ 1.ต้นรวงผึ้ง จำนวน 10 ต้น 2.ต้นประดู่นา จำนวน 5 ต้น 3.ต้นเสลา จำนวน 5 ต้น 4.ต้นอินทนิล จำนวน 10 ต้น 5.ต้นแคนา จำนวน 5 ต้น 6.ต้นชงโค จำนวน 10 ต้น 7.ต้นกัลปพฤกษ์ จำนวน 10 ต้น 8.ต้นปีบ จำนวน 5 ต้น 9. ต้นราชพฤกษ์ จำนวน 5 ต้น 10.ต้นตะแบก จำนวน 7 ต้น 11.ต้นไม้อื่นๆ จำนวน 500 ต้น
พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน 72 รูป เจริญพระพุทธมนต์ พระราชวชิรากร ดร.เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ ประธานปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2567 ทรงพระเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา กล่าวสัมโมทนียกถา ได้นำมาซึ่งความปลาบปลื้มปีติยินดีมาสู่พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ปัจจุบันปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรป่าไม้อยู่ในขั้นวิกฤติและส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม แนวทางการแก้ไขปัญหา ได้แก่ การป้องกันรักษาทรัพยากรป่าไม้ที่เหลือให้ คงอยู่ และการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ที่เสื่อมโทรมให้ฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สำหรับการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้โดยการปลูกป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่มีสภาพเสื่อมโทรม เช่น เขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า พื้นที่ต้นน้ำลำธาร ฯลฯ และการปลูกป่าในพื้นที่สาธารณะในเขตชุมชนท้องถิ่น เช่น บริเวณโรงเรียน วัด สถานที่ราชการ จะก่อให้เกิดประโยชน์ในการฟื้นฟูสภาพป่าอนุรักษ์ที่เสื่อมโทรมและการฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นนั้นๆ ทำให้ชุมชนมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ การส่งเสริมให้ราษฎรในท้องถิ่นได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมปลูกป่าจะเป็นการช่วยปลูกฝังจิตสำนึกให้ราษฎรในท้องถิ่นได้มีใจรักต้นไม้ รักป่าไม้ หวงแหนทรัพยากรป่าไม้และรักษาสิ่งแวดล้อม อันเป็นการสร้างแนวร่วมในการช่วยแก้ไขปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม ในปี 2567 เป็นปีมหามงคลเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2567 ทรงพระเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดีแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยสมาคมสมาคมจิราพรอาชีพค้าสลาก และผู้ด้อยโอกาสในประเทศไทย ได้จัดโครงการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หมุนเวียนไปตามสถานที่ต่างๆ ตลอดมา โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1.เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 2.เพื่อสืบต่อเจตนารมณ์ที่สมาคมแนวร่วมผู้ค้าสลากคนพิการและผู้ด้อยโอกาสในประเทศไทยและสมาคมจิราพรอาชีพค้าสลากได้ปฏิบัติร่วมกันมา 3.เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดความสมดุล 4.เพื่อส่งเสริมความสามัคคีความร่วมมือระหว่างหมู่คณะ 5.เพื่ออนุรักษ์พันธุ์ไม้ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อ สถานที่สาธารณะ วัดและชุมชน
การจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้ มีจำนวนต้นไม้ที่นำมาปลูก รวม 572 ต้น จึงได้จัดทำโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระเกียรติฯ ขึ้น จะเป็นการร่วมมือร่วมใจของข้าราชการ หน่วยงานราชการต่างๆ และราษฎรในท้องถิ่น ในอันที่จะช่วยกันทำความดีทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมด้วยการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดีแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 โดยการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าที่มีสภาพเสื่อมโทรมให้ฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ และเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ในพื้นที่สาธารณะในเขตชุมชนท้องถิ่น เช่น บริเวณโรงเรียน วัด สถานที่ราชการ เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกให้ราษฎรในท้องถิ่นมีใจรักต้นไม้ รักป่าไม้ หวงแหนทรัพยากรป่าไม้และรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งนับเป็นวาระมหามงคลของราชอาณาจักรไทยที่นำความปีติโสมนัสมาสู่จิตใจของปวงชนชาวไทยทั้งปวงทั้งนี้เพราะพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ที่สมเด็จบรมบพติรพระราชสมภารเจ้าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้ทรงปฏิบัติบำเพ็ญไว้ล้วนแต่เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทยตามนัยแห่งพุทธพจน์ที่ว่า “อตฺตหติ ปรหติ อุภยหิต สพฺพโลกหิตเมว จินฺตยมาโน จินฺเตติ” เป็นต้น แปลความว่า “บุคคล เมื่อคิด ย่อมคิด เพื่อประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่น ประโยชน์ส่วนรวม และประโยชน์ชาวโลกทั้งปวง บุคคลผู้เป็นบัณฑิต มีปัญญามากย่อมเป็นเช่นนี้”
พระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ที่สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้ทรงปฏิบัติบำเพ็ญไว้เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทยมีมากมายเกินกว่าจะพรรณนาได้ครบถ้วน เฉพาะส่วนที่นำมาพรรณนานั้นก็เป็นเพียงตัวอย่างของการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชกรณียกิจของพระราชบุพการีและสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าในพระบรมราชจักรีวงศ์ การที่สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงสามารถปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ได้มากมายเป็นอเนกอนันต์ก็เพราะทรงครองแผ่นดินโดยธรรมตามนัยแห่งพุทธภาษติที่ว่า “อล กาตุ อล สว ธิาตุ ” แปลความว่า “ตนเองทำก็ได้ ใช้ให้คนอื่นทำก็ได้” ส่งผลให้เกิดความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรือง ทั้งในฝ่ายราช อาณาจักรและฝ่ายพุทธจักร สมด้วยพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า “ สพฺพํ รฏฺฐํ สุขํ เสติ ราชา เจ โหติ ธมฺมิโก” แปลความว่า “ถ้าพระราชาตั้งอยู่ในธรรม ราษฎรทั้งปวงย่อมอยู่เป็นสุข” เพราะเหตุที่ทรงเพียบพร้อมด้วยกำลังทั้งห้าประการเหล่านี้ สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ จึงสามารถบำเพ็ญปรหิตปฏิบัติคือการบำเพ็ญประโยชน์สุขเพื่อผู้อื่นหรือส่วนรวมเพื่อประเทศชาติ พระศาสนาและพระบรมราชจักรีวงศ์ได้อย่างไพศาล ซึ่งเป็นไปตามพระปฐมบรมราชโองการที่พระราชทานไว้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อพุทธศักราช 2562 ที่ว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครอง แผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” พระราชปณิธานที่จะสืบสาน รักษาและต่อยอดนี้ เป็นเช่นเดียวกับที่สมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ได้ทรงปฏิญาณพระองค์เป็นแนวทางดำเนินพระราชจริยาสืบมาทุกรัชกาล
ดังนั้น ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รัฐบาลพร้อมด้วยคณะสงฆ์และประชาราษฎรทุกหมู่เหล่าได้มีสมานฉันท์พร้อมใจกันแสดงออกซึ่งความปีติ โสมนัสและความจงรักภักดีให้ปรากฏด้วยการทา ความดีมีประการต่าง ๆ เพื่อน้อมถวายพระพรชัยมงคล แด่พระบาทสม เด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ วันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2567 สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ และขออำนวยพรให้แด่ท่านทั้งหลายที่มาร่วมกันปลูกป่าในวันนี้ โดยมี นางสาววรางศิญา กองนิมิต ผู้อำนวยการประสานงานโครงการมูลนิธิชัยพัฒนาประธานในพิธี คณะกรรมการบริหารสมาคมจิราพรอาชีพค้าสลาก ผู้นำองค์กร พร้อมด้วยสมาชิก ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน และผู้มีเกียรติทุกท่าน จงประสพสมหวังดั่งพรชัยทั้ง 4 ประการ กล่าวคือ อายุ วรรณ สุข พละ ตลอดไปเทอญ.
