
Getting your Trinity Audio player ready...
|
สส.วารุจ เร่งติดตาม อ่างเก็บน้ำน้ำปาดหรือภูวังผา แก้ท่วมซ้ำซากให้ชาวบ้าน 3 อำเภอ บ้านโคก ฟากท่าและน้ำปาด หลังคุยปัญหาความเดือดร้อนให้ อดีตนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา” และ ร.อ.ธรรมนัส รมต.เกษตรฯ มาตรวจราชการที่อุตรดิตถ์ “พฤกษ์” ผอ.ชลประทานอุตรดิตถ์ แย้มข่าวดี ผ่านขบวนการ EIA แล้ว คาดว่า เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ.2570 เสร็จในปี 2575 ระยะเวลา 6 ปี ใช้ป้องกันอุทกภัยและปลูกพืชฤดูแล้ง
เมื่อเร็วๆนี้ นายวารุจ ศิริวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)จังหวัดอุตรดิตถ์ เขต 2 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้ติดตามโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำปาดหรืออ่างเก็บน้ำภูวังผา เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำให้กับประชาชนในพื้นที่ อำเภอบ้านโคก อำเภอฟากท่าและอำเภอน้ำปาดจังหวัดอุตรดิตถ์นั้น นับตั้งแต่ที่ได้เป็น สส.ในปี 2566 พบกับเหตุ การณ์น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอฟากท่า พี่น้องชาวบ้านโคกบางส่วนและน้ำปาด-ฟากท่า ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงในครั้งที่ผ่านมา ได้ประสานงานกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจราชการที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้นำปัญหาน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอฟากท่า ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนนำเสนอต่อท่านฯ พร้อมนำเสนอเรื่องโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำปาดหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “อ่างภูวังผา” ให้อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับทราบ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในพื้นที่
นายวารุจ กล่าวว่า ก่อนหน้าที่ได้เคยนำเสนอให้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งมาตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เช่นกัน ได้นำเสนอโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำปาดหรืออ่างเก็บน้ำภูวังผา เพื่อช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนและผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมอำเภอฟากท่าให้ชาวบ้าน ด้วยการนำโครงการดังกล่าวมาปัดฝุ่นใหม่ เป็นดครงการที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่แจ้งบอกกล่าวมานานมากเกินกว่า 30 ปีแล้ว
นายวารุจ กล่าวว่า กระทั่งคืนวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 ถึง วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ได้เกิดเหตุน้ำปาดไหลหลากเข้าท่มพื้นที่ตำบลม่วงเจ็ดต้นและตำบลบ่อเบี้ย อำเภอบ้านโคก, ตำบลฟากท่า ตำบลสองคอน ตำบสองห้อง ตำบลบ้านเสี้ยว อำเภอฟากท่าและตำบลเด่นเหล็ก ตำบลบ้านฝาย ตำบลแสนตอ อำเภอน้ำปาด ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่บ้านพักที่อยู่อาศัย พืชสวนไร่นาได้รับความเสียหาย รวมถึงสถานที่ราชการหลายแห่ง สะพานขาดชำรุดใช้งานไม่ได้ รวม 3 อำเภอ 9 ตำบล 45 หมู่บ้าน 567 ครัวเรือน บ้านพักได้รับความเสียหาย 272 หลัง พื้นที่การเกษตร 2,059 ไร่ ซึ่งเป็นอุทกภัยซำรอยเดิมที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 2566
“ตอนนี้จึงได้เร่งติดตามโครงการอ่างน้ำปาดหรืออ่างเก็บน้ำภูวังผา กับเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องในโครงการนี้ คาดว่าถ้ามีอ่างเก็บน้ำน้ำปาด ปัญหาเรื่องน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่บ้านโคก ฟากท่าและน้ำปาดจะหมดไป เพราะอ่างเก็บน้ำน้ำปาดมีขนาดใหญ่ ใช้งบประมาณค่อนข้างสูง ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 6 ปี จุน้ำได้ประมาณกว่า 80 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) อยู่ระหว่างการผลักดันอ่างเก็บน้ำตัวนี้อยู่
จะพยายามผลักดันเต็มที่ทำให้โครงการอ่างน้ำปาดเกิดขึ้นให้ได้ ในปี 2570 นี้ หากก่อสร้างก็จะแล้วเสร็จในปี 2575 ทั้งนี้ ได้นำปัญหาเรื่องดังกล่าวเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้เข้ามาดูแลอีกครั้งหนึ่ง ในส่วนตัวผมรู้จักใครได้ ประสานกับใครได้ก็จะประสานงานหมด”
นายวารุจ กล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ ได้ลงเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมครั้งนี้ พร้อมประสานงานกับใครได้ก็เร่งดำเนินการประสานงานให้ และได้รับความกรุณาจากหลายหน่วยงานเข้ามาดูแล อาทิ ธนาคารออมสิน ภาค7 ธนาคารกรุงไทย โดยกรมศุลกากรได้ให้การสนับสนุนแก้ไขความเดือดร้อนให้ พร้อมประสานงานกับ นายศุภรักษ์ จินดา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุตรดิตถ์ นายชลิต ธนะวัฒน์ รองนายก อบจ.อุตรดิตถ์ นายปรารถนา เอี่ยมวัฒนากุล นายกเทศ มนตรีเมืองอุตรดิตถ์ และ นายสำราญ เอื้อจิรวาณิชย์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองอุตรดิตถ์ ช่วยประสานและติดต่อให้ผู้บริหารนายกเทศมนตรีเมืองอุตรดิตถ์ นำอุปกรณ์และเครื่องจักรกลขนาดใหญ่พร้อมเจ้าหน้าที่ให้การช่วย เหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ ทั้ง 3 อำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอฟากท่าจะได้รับผลกระทบหนักมากที่สุด จนสามารถคลี่คลายไปได้ด้วยดี
ยังคงเหลือตัวสะพานที่เคยขาดมาถึง 2 ครั้ง พื้นที่หมู่บ้านวัดกกต้อง ตลิ่งคันกันน้ำบริเวณด้านหลังวัด ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลให้ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน ภัยธรรมชาติห้ามกันไม่ได้เกิดมาแล้ว นับว่ามีความโชคดีบนความโชคร้าย ที่ผ่านมาถึง 2 ครั้ง ไม่มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสนับเป็นความโชคดีอยู่ คงต้องรอลุ้นกันว่า โครงการอ่างน้ำปาดหรืออ่างภูวังผา ที่ได้ดำเนินการผลักดันมาตั้งแต่ นายเศรษฐา ทวีสิน ครั้งดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี มาตรวจราชการที่จังหวัดอุตรดิตถ์ จะเกิดขึ้นในปี 2570-2575 หรือไม่ นายวารุจ สส.อุตรดิตถ์ เขต2 พรรคเพื่อไทยกล่าว
ด้าน นายพฤกษ์ เรืองไวทย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ในช่วงคำคืนของวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ปริมาณฝกตกกระจายวัดได้ประมาณ 100 มิลลิเมตร ทั้งในพื้นที่อำเภอบ้านโคกและอำเภอฟากท่า ปริมาณน้ำไหลลงมาลงที่ฝายน้ำปาดวัดได้ประมาณ 410 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม) /วินาที เวลาบ่าย 2 โมงของวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 เมื่อปริมาณน้ำได้ไหลลงมาสู่อำเภอน้ำปาดได้แจ้งรายงานหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ประเมินความเสี่ยงรวมถึงการบริหารจัดการน้ำให้เกิดผลกระทบต่อริมแม่น้ำปาดและริมแม่น้ำน่านให้ได้ผลกระทบน้อยที่สุด หลังตรวจสอบแล้วพบว่า น่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนผาจุกคอยเบรคน้ำน่านท้ายเขื่อนประมาณ 600 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม./วินาที ทางโครงการได้ทำการแจ้งเตือนราษฎรที่อยู่ท้ายน้ำของเขื่อนผาจุกรวมทั้งทางประมงจังหวัดอุตรดิตถ์ รับผิดชอบกระชังปลาในพื้นที่ลำน้ำน่านได้เตรียมรับปริมาณน้ำ โดยปกติแล้วปริมาณน้ำจะไหลท้ายเขื่อนผาจุก 300 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)/วินาที โดยที่ปริมาณน้ำที่มาจากน้ำปาดวัดได้สูงสุดประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที เขื่อนผาจุกจะเบรคน้ำให้ 400 ลูกบากศ์เมตร(ลบ.ม.)/วินาที พร้อมบริหารจัดการน้ำปล่อยน้ำท้ายเขื่อนประมาณ 600 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)/วินาที เพื่อลดผลกระทบด้านท้ายน้ำ
นายพฤกษ์ กล่าวว่า จากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศทำให้เรามีโอกาสเสี่ยงที่จะเจอฝนตกรุนแรงในพื้นที่มากขึ้น ทางกรมชลประทานได้เตรียมการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำน้ำปาด ความจะประมาณ 80 ล้านลูกบากศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) ขณะนี้ได้ผ่านขบวนการของ EIA แล้ว คาดว่า จะได้เริ่มลงมือก่อสร้างในปี พ.ศ.2570 แล้วเสร็จในปี 2575 หากอ่างเก็บน้ำน้ำปาดก่อสร้างเสร็จแล้ว จะมีเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะปริมาณน้ำฝนที่จะตกในพื้นที่อำเภอบ้านโคก ไม่ให้ไหลบ่าลงมาตามลำน้ำปาดเข้าท่วมตัวอำเภอฟากท่าและอำเภอน้ำปาด อย่างที่เคยเกิดมาช่วง 1-2 ปีนี้
นายพฤกษ์ กล่าวด้วยว่า ผลพลอยได้จากการป้องกันอุกทกภัยเล้ว ยังสามารถเก็บน้ำเอาไว้เพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุนให้อำเภอฟากท่าและอำเภอน้ำปาด สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่บริเวณนั้นประมาณ 5,000 ไร่ สามารถปลูกพืชในฤดูแล้งได้ ที่ผ่านมาพื้นที่บริเวณนั้น จะปลูกพืชได้เฉพาะในฤดูฝนเท่านั้น การที่มีอ่างเก็บน้ำน้ำปาดขึ้นมาสามารถ 1.ป้องกันอุทกภัย 2.ส่งน้ำเข้าพื้นที่เพาะปลูกในฤดูฝนและฤดูแล้งได้ พื้นที่ได้รับผลประโยชน์จะอยู่ในบริเวณอำเภอฟากท่าและอำเภอน้ำปาด พื้นที่โดยรว 74,000 ไร่
ระหว่างที่ยังไม่มีอ่างเก็บน้ำน้ำปาด ซึ่งเป็นเครื่องมือบริหารจัดการน้ำจะประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คอยเฝ้ามอนิเตอร์ข้อมูลจากสถานีวัดน้ำต่างๆที่อยู่ในลุ่มน้ำปาด หากมีความเสี่ยงใดก็จะแจ้งเตือนให้ราษฎรได้รับทราบ ตอนนี้พยายามใช้เครื่องมือที่มีอยู่บริหารจัดการน้ำให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด ตอนนี้ยังมีเขื่อนสิริกิติ์อยู่สามารถรับน้ำได้ถึง 9,500 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) มีเขื่อนผาจุกไว้คอยบริหารจัดการน้ำด้านท้าย คอยเบรคน้ำไว้ให้ คอยจัดจราจรน้ำไว้ให้ และสถานีวัดน้ำอีก 10 แห่ง ฝายน้ำปาดคอยมอนิเตอร์ข้อมูลน้ำท่าไว้ให้ ทั้งนี้ก่อนที่อ่างน้ำปาดจะเสร็จ ฝากประชาชนช่วยกันดูข้อมูลจากหน่วยงานราชการสภาพอากาศ ทั้งจากกรมอุตุนิยมวิทยา ทางจังหวัดอุตรดิตถ์และทางชลประทานอุตรดิตถ์ จะช่วยเป็นแหล่งสื่อข้อมูลให้ในการแจ้งเตือน นายพฤกษ์ ผู้อำนวยการชลประทานอุตรดิตถ์ กล่าวทิ้งท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำปาดนั้น ตั้งอยู่หมู่ 10 บ้านดงต้นผึ้ง ตำบลฟากท่า อำเภอฟากท่า จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียว กว้าง 9.00 เมตร สูง 51.80 เมตร ยาว 500 เมตร ปริมาณน้ำเก็บกัก 85.64 ล้าน ลบ.ม. ท่อส่งน้ำขนาด ⌀1.80 เมตร ระบายได้ 60 ลบ.ม./วินาที พร้อมอาคารระบายน้ำล้น ชนิด Gated Spillway ขนาดบานระบาย กว้าง 12.50 เมตร สูง 7.00 เมตร จำนวน 3 ช่อง มีฝายที่ต้องก่อ สร้างใหม่/ปรับปรุง จำนวน 14 แห่ง ก่อสร้างสถานีสูบน้ำพร้อมระบบส่งน้ำ 13 แห่ง ประโยชน์ที่ได้รับ เพิ่มพื้นที่ชลประทานฤดูฝน 73,640 ไร่ และฤดูแล้ง 40,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 2 อำเภอ 11 ตำบล รวม 89 หมู่บ้าน 18,115 ครัวเรือน ประชากร 51,541 คน- เพื่อบรรเทาความรุนแรงของอุทกภัยในเขตท้องที่อำเภอฟากท่าและอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ระยะเวลาโครงการ 6 ปี 2570-2575 วงเงินงบประมาณ 6,545 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำปาดเป็นโครงการขนาดใหญ่ ในพื้นที่อำเภอน้ำปาดและอำเภอฟากท่า จังหวัดอุตรดิตถ์ วัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งน้ำสำหรับการเพาะปลูก การอุปโภคบริโภค บรรเทาอุทกภัย และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ รวมถึงเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาดและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่จริม ปัจจุบันโครงการนี้ผ่านขั้นตอนการศึกษา EIA พิจารณาการอนุญาตใช้พื้นที่แล้ว โดยมีพื้นที่หัวงานอ่างเก็บน้ำและองค์ประกอบโครงการ จำนวน 2,950 ไร่ จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่หัวงานและอ่างเก็บน้ำอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด จำนวน 2,010 ไร่ และอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่จริม จำนวน 940 ไร่ ประชาชนในพื้นที่เห็นด้วยกับการพัฒนาโครงการ.