|
Getting your Trinity Audio player ready...
|
งบเทศบาลตำบล 26 แห่ง กว่า 889 ล้าน ถูก “แขวน” เหตุท้องถิ่นจังหวัดแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม “กร่างใส่” อนุกรรมาธิการงบประมาณ จ่อโดนตั้งกรรมการสอบเอาผิดวินัย ซ้ำถูกร้องสอบจริยธรรมข้าราชการ 3 ส.ส.อุตรดิตถ์ เพื่อไทย ประสานช่วยบรรจุเรื่องพิจารณาใหม่อีกครั้ง 13 สิงหาคมนี้ คนเดียวทำให้เทศบาลขาดงบประมาณ ถือไม่เป็นธรรม เรียกร้องให้ย้ายไปอยู่ในกรมฯ หากช่วงพิจารณาโยกย้ายยังอยู่ในพื้นที่ เตรียมก่อม็อบขับไล่ทันที
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2567 ร้อยตรี ทรวง นาพันธุ์ ประธานสันนิบาตเทศบาลจังหวัดอุตรดิตถ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลงิ้วงาม อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา นายภราดร ปริศนานันทกุล ประธานอนุกรรมาธิการท้องถิ่นเทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และเงินอุดหนุนที่จัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (องค์การบริหารส่วนตำบล) ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ได้เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมาธิการท้องถิ่น เพื่อจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของจังหวัดอุตรดิตถ์ เทศบาลตำบล จำนวน 26 แห่ง ด้วยงบประมาณ 889 ล้านบาทเศษ ซึ่งสันนิบาตจังหวัดอุตรดิตถ์ได้ชี้แจงให้กับเทศบาลตำบลในแต่ละพื้นที่ได้รับทราบ เพื่อเตรียมข้อมูลในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณเป็นที่เรียบร้อย และได้มีการเตรียมความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเทศบาลตำบลในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมาธิการท้องถิ่นฯ เพื่อเตรียมนำเสนองบประมาณ โดยมีนางสุทิน รอดแก้ว ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาท้องถิ่น เป็นผู้กล่าวสรุปรายงานแทน นายเทียนชัย วงศ์ษา ท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ เนื่องจากท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ ติดประชุมคณะกรรมการพนักงานเทศบาล ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้
ร้อยตรี ทรวง ประธานสันนิบาตเทศบาลจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า นายภราดร ประธานอนุกรรมาธิการท้องถิ่นเทศบาลฯ ได้แจ้งให้ตาม นายเทียนชัย วงศ์ษา ท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ มานำเสนอด้วยตนเอง เมื่อท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ได้เข้าร่วมประชุมแล้ว ระหว่างการประชุมได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น นายเทียนชัย ท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้แสดงพฤติกรรมที่ไม่สุภาพไม่เหมาะสม ตลอดจนใช้วาจาต่อสิ่งต่างๆบ่งบอกถึงความไม่สุภาพเรียบร้อย ต่อการบริหารงบประมาณ ต่อหน้าอนุกรรมาธิการฯ ส่งผลทำให้อนุกรรมาธิการไม่สามารถรับพฤติกรรมท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ ในส่วนนี้ได้ และทางประธานอนุกรรมาธิการจึงได้ปรึกษากับอนุอนุกรรมาธิการในจังหวัดต่างๆ ลงมติเห็นควรยกเลิกการพิจารณาการจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของจังหวัดอุตรดิตถ์ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด
ร้อยตรี ทรวง กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นประธานสันนิบาตเทศบาลจังหวัดอุตรดิตถ์ จึงได้เรียกประชุมคณะผู้บริหารเทศบาลตำบลทั้ง 25 แห่ง พร้อมเรียนเชิญ นายสหวิช อภิชัยวิศรุตกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ มาร่วมรับฟังพร้อมหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นได้ทำหนังสือถึงนายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อนำเสนอต่ออธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กับจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ได้แสดงความเห็นใจต่อสันนิบาตเทศบาลจังหวัดอุตรดิตถ์ รับปากว่าจะติดตามและช่วยประสานงานกับทางกรมการปกครองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้งบประมาณ ปี 2568 ไม่หลุดไป และหากงบประมาณของเทศบาลทั้ง 26 แห่งนี้หลุดไป จะเป็นผลเสียต่อเทศบาลอย่างมหาศาล เนื่องจากวงเงินที่ขอไปทั้งหมดนั้นเป็นเงินจำนวนกว่า 889 ล้านบาท จะเสียโอกาสต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ด้านการพัฒนาในรูปแบบต่างๆอย่างชัดเจน
ร้อยตรี ทรวง กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ได้แจ้งให้ทางนายกสมาคมสันนิบาตแห่งประเทศไทยและสันนิบาตภาคเหนือ ได้รับทราบต่อกรณีที่สันนิบาตจังหวัดอุตรดิตถ์ เทศบาล 26 แห่ง ได้รับปัญหาที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่แสดงต่อประธานอนุกรรมาธิการท้องถิ่นเทศบาลและคณะกรรมาธิการที่ผ่านมา ฝากถึงคณะผู้บริหารในส่วนของเทศบาลตำบลทั้ง 26 แห่ง สิ่งที่เกิดขึ้นสามารถแก้ไขได้ ในฐานะที่ตนเป็นประธานสันนิบาตจังหวัดอุตรดิตถ์ จะทำหน้าที่ติดตามประสานงานพร้อมหาทางแก้ปัญหาในเรื่องที่เกิดขึ้นให้ถึงที่สุด เพื่องบประมาณดังกล่าวจะได้ไม่หลุดไป ทุกเทศบาลตำบลจะได้นำงบประมาณมาพัฒนาในพื้นที่ของตนเองเพื่อประชาชนต่อไป
นายสหวิช อภิชัยวิศรุตกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานถึงพฤติกรรมของท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ที่แสดงต่ออนุกรรมาธิการท้องถิ่นจากสันนิบาตเทศบาลจังหวัดอุตรดิตถ์แล้ว ในเนื้อหาสาระเรื่องหลักของงบประมาณเทศบาลแต่ละแห่งรวมกว่า 889 ล้านบาท ในแต่ละโครงการนายกเทศบาลตำบลจะรู้รายละเอียด หากกรรมาธิการท้องถิ่นฯสอบถามสามารถตอบได้ ความสำคัญของการพัฒนาในพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งน้ำ น้ำกินน้ำใช้ น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งในเรื่องงบประมาณนั้น เกินความสามารถของท้องถิ่นระบบเทศบาลตำบลก็ต้องขอจากส่วนกลางผ่านพระราชบัญญัติงบประมาณ(พ.ร.บ.) ซึ่งท้องถิ่นเทศบาลจะต้องขอด้วยตนเอง เนื่องจากเงินส่วนนี้เป็นเงินจากรายได้ในการจัดเก็บภาษี เป็นเงินจากสัดส่วนของประชากรที่ต้องคืนให้กับท้องถิ่นเป็นเงินอุดหนุน เดินท้องถิ่นไม่พร้อมส่วนกลางก็ดำเนินการแทน ด้วยการจัดเก็บข้อมูลจากท้องถิ่นไปเสนอจัดเก็บแทน เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางท้องถิ่นก็ต้องทำคำชี้แจงของบประมาณด้วยตนเอง จะถูกตัดหรือเพิ่มงบประมาณนั้นก็เป็นเรื่องของกรรมาธิการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎร
นายสหวิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้เพื่อแค่เสนอปัญหาความต้องการและความสำคัญเร่งด่วน ซึ่งรายละเอียดนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลจะต้องเป็นผู้ชี้แจง ในระดับจังหวัดจัดทำความเชื่อมโยงข้อมูลในส่วนข้อมูลที่สามารถให้การสนับสนุนได้ ก็จะช่วยสนับสนุนเสริมให้กับทางเทศบาลตำบล
“ ขอความเมตตาต่อคณะอนุกรรมาธิการอยากให้งบประมาณในส่วนของเทศบาลตำบลทั้ง 26 แห่ง ด้วยงบประมาณ 889 ล้านบาทผ่านด้วยดี เพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ ด้วยความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชนบทค่อนข้างที่จะลำบาก หากถูกตัดไปความเหลื่อมล้ำจะเกิดขึ้นทันที”
รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ในส่วนของพฤติกรรมของท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ที่แสดงต่อคณะอนุกรรมาธิการงบประมาณท้องถิ่นนั้น ทางจังหวัดอุตรดิตถ์ได้รายงานให้ทางอธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ได้รับทราบแล้ว คงมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พฤติกรรมที่แสดงออกมานั้นมีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร หากไม่เหมาะสมก็ว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งเป็นโทษทางวินัยเชื่อว่าเป็นวินัยที่ไม่ร้ายแรง ย่อมเป็นเรื่องปกติที่ทางเทศบาลตำบลทั้ง 26 แห่งจะแสดงความไม่พอใจ เนื่องจากทำให้เทศบาลแต่ละแห่งเสียโอกาสและเสียเวลา ซึ่งเทศบาลตำบลแต่ละแห่งได้ทำงานร่วมกับท้องถิ่นจังหวัดย่อมรู้พฤติกรรมกันอยู่แล้ว ในเรื่องของความไม่พอใจนั้น การโยกย้ายไม่ใช่อำนาจของจังหวัดแต่ขึ้นอยู่กับส่วนกลาง พฤติกรรมที่ท้องถิ่นจังหวัดแสดงนั้นเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไม่มีความเหมาะสมในภาวะที่ต้องพูดตออนุกรรมาธิการท้องถิ่น เพื่อจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของจังหวัดอุตรดิตถ์ ทุกคนย่อมรู้อยู่ว่าอะไรคืออะไร ขั้นตอนที่ท้องถิ่นจังหวัดถูกสั่งการให้ปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องทำตามนั้น ถือเป็นการเตรียมความพร้อมของสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ไม่ดีพอ คงไม่ต้องวิตกกังวลอะไร สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงพฤติกรรมของข้าราชการบางคน แต่ว่าระบบงบประมาณก็ต้องดำเนินการไปตามนั้นต่อไป ด้วยความจำเป็นและเหตุผล เชื่อกรรมาธิการคงไม่ตัดงบประมาณเทศบาลตำบลในจังหวัดอุตรดิตถ์ทั้ง 26 แห่งออกไป เนื่องจากเป็นความจำเป็นเร่งด่วนและต้องมีการเตรียมความพร้อม ขรุขระหน่อยก็ไม่เป็นไรนำเสนอต่ออนุกรรมาธิการอีกรอบหนึ่ง
ด้าน นายธีรชัย ชวลิตสกุลเดช นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเกาะ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มั่นใจว่า ท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์อุตรดิตถ์ ติดขัดตรงไหน อาจจะเป็นครั้งแรกที่มีการดำเนินการน่าจะติดขัดในเรื่องการเตรียมความพร้อม เชื่อว่าเป็นส่วนนี้ ทั้งในเรื่องบุคลากร การวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ครั้งแรกทั่วประเทศที่มีการของบตรงกับอนุกรรมาธิการฯ ในการของบประมาณให้กับท้องถิ่นจังหวัด อาจจะไม่เข้าใจขบวนการที่ทางจังหวัดและส่วนกลางต้องการ
นายธีรชัย กล่าวว่า ด้านความรู้สึกนั้น ด้วยอำนาจหน้าที่ในส่วนของคณะอนุกรรมาธิการฯ มีสิทธิ์ที่จะซักถามสอบถามเรียกเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งมาให้ข้อมูลชี้แจงกับทางอนุกรรมาธิการได้ ซึ่งก็ต้องมาทำความเข้าใจกันด้วยบทบาทหน้าที่ ซึ่งอาจจะเข้าใจกันคนละมุม และต้องทำความเข้าใจกันให้ชัดเจน ในส่วนงบประมาณของเทศบาลตำบลทั้ง 26 แห่ง ด้วยงบประมาณกว่า 889 ล้านบาท หากถูกแขวนไป ย่อมมีความเสียหายทั้งจังหวัดอุตรดิตถ์ ต้องรอดูทางส่วนกลางว่าจะให้ทางจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้มีการปรับปรุงรวมถึงวิธีการทำงานใหม่ซึ่งควรที่จะทำ กำลังรอทางส่วนกลางแจ้งมาอยู่และคิดว่าทางส่วนกลางคงให้โอกาสกับทางจังหวัดอุตรดิตถ์อีกครั้งหนึ่ง ในส่วนของนายเทียนชัย วงศ์ษา ท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ ควรที่ออกมาแสดงความชัดเจนพร้อมชี้แจงข้อผิดพลาด ซึ่งตอนนี้มีข่าวออกไปทำให้คนเข้าใจในอีกมุมมองหนึ่ง จังหวัดอุตรดิตถ์เป็นเมืองน่าอยู่เป็นเมืองที่ดี ก็ควรที่จะออกมาแสดงความขอโทษ ผิดพลาดตรงไหนก็ปรับปรุงแก้ไขกัน
นายวารุจ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 กล่าวถึงกรณีที่นายเทียนชัย วงศ์ษา ท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์แสดงกิริยาไม่สุขภาพต่ออนุกรรมาธิการงบประมาณท้องถิ่น เพื่อเตรียมจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของจังหวัดอุตรดิตถ์ว่า ได้ทราบเรื่องและดูคลิปวิดีโอที่มาการแชร์ต่อกันมาในสื่อออนไลน์แล้ว และได้รับการประสานงานจากนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลในหลายพื้นที่ถึงพฤติกรรมการแสดงที่ไม่เหมาะสม ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุตรดิตถ์ เขต2 ก็รู้สึกเป็นห่วงในเรื่องนี้ ได้มีการพูดคุยกับนางสาวกฤษณา สีหลักษณ์ และนายรวี เล็กอุทัย สส.เขต1 และสส.เขต3 หวั่นงบเทศบาลทั้ง 26 แห่งอาจมีปัญหาในการขาดงบประมาณ จึงได้ประสานงานพร้อมพูดคุยและอธิบายให้ทางอนุกรรมาธิการงบประมาณท้องถิ่นว่า ถ้าคนๆเดียวทำให้ท้องถิ่นในจังหวัดอุตรดิตถ์ทั้งหมดต้องขาดงบประมาณ ถือไม่เป็นธรรมกับท้องถิ่นเทศบาลตำบลทั้ง 26 แห่ง ซึ่งทางอนุกรรมาธิการรับทราบและเข้าใจแล้ว พร้อมที่จะบรรจุเรื่องให้อีกครั้งในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ ซึ่งผู้นำท้องถิ่นในแต่ละแห่งไม่ได้แสดงอาการกิริยากับใครเลย มีแต่ท้องถิ่นจังหวัด
หากงบถูกแขวนไปกลุ่มเทศบาลตำบลทั้ง 26 แห่งก็จะเสียโอกาส ชาวบ้านก็รอโครงการพัฒนาจากเทศบาลอยู่ แนวทางการประสานงานได้มีการประสานประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ซึ่งเป็นวิปใหญ่ และประสานประธานอนุกรรมาธิการท้องถิ่นเทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และเงินอุดหนุนที่จัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (องค์การบริหารส่วนตำบล) ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ด้วย ทั้ง 2 คณะเข้าใจถึงปัญหาเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมถึงเหตุผลแล้ว จะมีการนำเรื่องงบประมาณของท้องถิ่นเทศบาลตำบลในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ทั้ง 26 แห่ง งบกว่า 889 ล้านบาท เข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณากันใหม่อีกครั้ง ทางอนุกรรมาธิการก็ได้แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นต่อกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้วและให้ท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นผู้ชี้แจงงบประมาณด้วยตนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสื่อโลกออนไลน์มีการแห่แชร์คลิปถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนายเทียนชัย วงศ์ษา ท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ มีการแสดงออกต่อประธานประชุมคณะอนุกรรมาธิการท้องถิ่น และคณะอนุกรรมการที่เข้าร่วมประชุม ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของจังหวัดอุตรดิตถ์ เทศบาลตำบล จำนวน 26 แห่ง ด้วยงบประมาณ 889 ล้านบาทเศษ โดยมีผู้นำท้องถิ่นเทศบาลตำบล 26 แห่งเฝ้าติดตามและเตรียมชี้แจงงบประมาณหากมีข้อซักถาม
ทุกคนต่างตกใจที่ได้เห็นพฤติกรรมการแสดงออกของนายเทียนชัย วงศ์ษา ท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ ต่อประธานประชุมคณะอนุกรรมาธิการท้องถิ่นผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า “ท่านบังคับผม ผมไม่ใช่ลูกน้องท่าน พร้อมพูดอ้างกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 250 ต่อหน้าประธานประชุมคณะอนุกรรมาธิการท้องถิ่น และคณะอนุกรรมการที่เข้าร่วมประชุม ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ระหว่างนั้น นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู กรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 สังเกตุการณ์และร่วมประชุมด้วย กล่าวให้ท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ได้รับฟังว่า ท่านเป็นข้าราชการและเป็นพี่เลี้ยงเทศบาลตำบลในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการของบประมาณผ่านอนุกรรมาธิการโดยตรง ระหว่างที่นางศิริวรรณ กำลังพูดอยู่นั้น นายเทียนชัย วงศ์ษา ท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ลุกจากที่นั่งออกไปจากหน้าจอวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ทันที โดยไม่รับฟังคำอธิบายจากนางศิริวรรณ กรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ซึ่งกำลังพูดอยู่ นับเป็นการเสียมารยาทและไม่ให้เกียรติต่อผู้พูด
ขณะเดียวกัน นายภราดร ปริศนานันทกุล ประธานอนุกรรมาธิการท้องถิ่น ได้พูดชี้แจงต่อนายกเทศบาลตำบลในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ทั้ง 26 แห่ง ให้รับทราบว่า ได้เห็นพฤติกรรมของท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ กรรมาธิการพิจารณามาจนจะเสร็จแล้ว วันนี้เกือบจะวันสุดท้ายแล้ว ไม่เคยพบเจอแบบนี้ อันที่จริงแล้วทางสภาผู้แทนราษฎรโดยกรรมาธิการงบประมาณ ได้มีการพูดคุยกับอธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นที่เรียบร้อยว่า ให้ท้องถิ่นจังหวัดมาช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้กับทางเทศบาลทั้งหมด เพื่อช่วยในการจัดทำข้อมูลให้ ที่สำคัญทางท้องถิ่นจังหวัดมีหน้าที่ยืนยันกับนายกเทศมนตรีทั้งหมดว่าเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการ เรื่องการของบประมาณเป็นที่เรื่องสำคัญมาก จำเป็นที่จะต้องผ่านสภาผู้แทนราษฎรเพื่ออนุมัติงบประมาณ ท้องถิ่นจังหวัดเป็นกลไกที่สำคัญในการที่จะเป็นพี่เลี้ยงในงานของบประมาณในครั้งนี้
แต่ทางท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ได้ปฏิบัติแบบนี้ โดยมีตัวแทนของกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย จึงถือโอกาสแจ้งให้ทางท้องถิ่นจังหวัดทราบว่า จะนำพฤติกรรมของท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ ไปรายงานต่อผู้บังคับบัญชาและจะต้องมาพบกันใหม่ วันนี้จะไม่มีการพิจารณางบประมาณท้องถิ่นเทศบาลตำบลทั้งจังหวัดอุตรดิตถ์ ขออภัยนายกเทศบาลตำบลทุกคน หากทำแบบนี้ไม่ให้เกียรติสภาผู้แทนราษฎรไม่เกียรติกรรมาธิการงบประมาณ งบประมาณก็ยังไม่ต้องเอา ไม่ใช่เป็นเรื่องที่กรรมาธิการเรื่องมาก แต่ทำไม 70 กว่าจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัดมาได้หมด แล้วอุตรดิตถ์เป็นอะไร มีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นแบบไหน วันนี้คณะกรรมาธิการพิจารณาไม่ได้ ต้องขอภัยนายกเทศบาลตำบลทุกคน พร้อมทีมงานข้าราชการทุกคน ไม่ใช่ความผิดของนายกเทศบาลตำบลทุกแห่ง เมื่อหัวหน้าทีมไม่พร้อมที่จะให้นายกเทศบาลได้ร่วมพิจารณา นายกเทศบาลจะต้องไปพูดคุยกับท้องถิ่นจังหวัด ไม่เช่นนั้นงบประมาณก็จะไม่ได้พิจารณาและจะไม่ผ่านทั้งจังหวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน นายสุรินทร์ ปริมาณ นายกเทศบาลตำบลท่าปลา อำเภอท่าปลา กล่าวต่อหน้าอนุกรรมาธิการงบประมาณว่า ตนได้ร้องเรียนพฤติกรรม นายเทียนชัย วงศ์ษา ท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ ไม่ได้เป็นพี่เลี้ยงให้กับเทศบาล ไปยังนายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ถึงกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น และอยากให้ประธานอนุกรรมาธิการท้องถิ่น ได้พิจารณาในเรื่องนี้ให้หน่อย ท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์มีพฤติกรรมเช่นนี้มานานแล้วและไม่ทำงานด้วยและมีปัญหากับท้องถิ่นมาโดยตลอด อยากให้ทางอนุกรรมาธิการฯ ช่วยผ่านงบประมาณในเรื่องนี้ให้ แต่ถูกประธานอนุกรรมการปฏิเสธ พร้อมนัดประชุมเรื่องงบประมาณในส่วนของจังหวัดอุตรดิตถ์ใหม่อีกครั้ง
ทั้งนี้ ตัวแทนกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวชี้แจงถึงพฤติกรรมของท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ ให้ผู้บังคับบัญชารับทราบเป็นการเบื้องต้นแล้ว และในส่วนของคณะอนุกรรมาธิการฯ เตรียมยื่นเรื่องสอบจริยธรรมเอาผิดกับนายเทียนชัย วงศ์ษา ท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากพฤติกรรมดังกล่าวของท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่แสดงต่ออนุกรรมาธิการงบประมาณในครั้งนี้ ส่งผลทำให้การพิจารณางบประมาณส่วนของเทศบาลตำบลในจังหวัดอุตรดิตถ์ ทั้ง 26 แห่งต้องถูกเลื่อนการพิจารณาออกไป ทำให้ผู้บริหารท้องถิ่นเทศบาลหลายแห่งไม่พอใจ เพราะเสียโอกาสในการพิจารณางบประมาณ 889 ล้านบาทในวันนี้ เรียกร้องให้ท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ ออกมากล่าวคำขอโทษต่ออนุกรรมาธิการด้วยตนเอง รวมถึงเรียกร้องให้ อธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นโยกย้ายนายเทียนชัย ท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ เข้าไปอยู่ภายในกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เหตุเพราะไม่สามารถทำงานร่วมกับท้องถิ่นระดับเทศบาลในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ได้แล้ว ให้ไปแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอยู่ภายในกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นแทน หากช่วงพิจารราโยกย้ายยังอยู่ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ต่อไป จะก่อม็อบขับไล่ทันที.
