Getting your Trinity Audio player ready...

อุตรดิตถ์ ปล่อยแถวเปิดปฏิบัติการ (Kick off) จัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย 12 แนวทาง กวาดล้างยาเสพติด การค้ามนุษย์ การครอบครองและพกพาอาวุธปืน การพนัน และ ผู้มีอิทธิพล โดยเฉพาะยาเสพติดต้องหมดไปภายใน 1 ปี

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 66 ที่บริเวณหน้าอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานปล่อยแถวเปิดปฏิบัติการ (Kick off) ตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยเป็นการบูรณาการร่วมระหว่างฝ่ายความมั่นคง ปกครอง ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันเป็นไปตามที่รัฐบาล ด้านการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล การรักษาความสงบเรียบร้อย การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าและทรัพยากรธรรมชาติ การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ การป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา บ่อนการพนัน การครอบครองและพกพาอาวุธปืน สถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการและอาชญากรรมต่างๆ

โดยให้ความสำคัญกับกิจกรรมที่ไม่พึงประสงค์ 6 เรื่อง ได้แก่ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ การครอบครองและพกพาอาวุธปืน การพนัน การดำเนินการติดตามและเฝ้าระวังผู้มีอิทธิพล และสถานบริการและสถานบันเทิง จังหวัดอุตรดิตถ์ และอีก 9 อำเภอ จึงได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล และแต่งตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง เพื่อดำเนินการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดสิ่งผิดกฎหมาย ตรวจตรา หาข่าว และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพลรวมทั้ง บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ โดยกำหนดเปิดปฏิบัติการ (Kick off) ตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล จังหวัดอุตรดิตถ์จัดพิธีปล่อยแถวเพื่อเปิดปฏิบัติการ (Kick off) ตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้ พื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นการทำงานเชิงรุก โดยความร่วมมือกันทุกภาคส่วน เพื่อสร้างสังคมให้สงบสุข บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่ทุกคน มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และปฏิบัติอย่างเข้มแข็งเต็มกำลังความสามารถ การปฏิบัติงานอย่างละเอียดรอบคอบ รัดกุม ทุกขั้นตอนและต้องตั้งอยู่บนความไม่ประมาท เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด บรรลุตามวัตถุประสงค์นโยบายของทางรัฐบาลและนโยบายของกระทรวงมหาดไทย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 3/2566 โดยได้ประกาศนโยบายลดปัญหายาเสพติด ภายในระยะเวลา 1 ปี โดยกำหนดหลัก “ยึดผู้เสพเป็นผู้ป่วย ผู้ค้าต้องถูกลงโทษและยึดทรัพย์ ผู้ป่วย ต้องช่วยให้ถึงการพัฒนา ช่วยเหลืออาชีพ” พร้อมกำหนด 12 แนวทางการทำงานเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ ประกอบด้วย 1.ยึดเป้าหมายร่วมกัน คือ ลดความเดือดร้อนของประชาชน 2.แก้ไขปัญหาความรุนแรงด้านจิตเวช 3.สร้างความเข้าใจ ปฏิบัติการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน ภายใน 1 ปี 4.ให้ทุกหน่วยที่ได้รับงบประมาณด้านยาเสพติดปรับ/จัดสรรงบประมาณให้กับการปฏิบัติการเร่งด่วนนี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ 5.ให้จังหวัดเป็น CEO จัดการแก้ไขปัญหาตัวเอง ขอให้แต่ละจังหวัดดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง วัดผลได้ 6.การขยายการมีส่วนร่วมของชุมชน 7.ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดให้มากขึ้น เพราะเป็นกฎหมายที่ปรับฐานคิด ของการแก้ไขปัญหายาเสพติดใหม่ ยึดผู้เสพเป็นผู้ป่วย ผู้ค้าต้องถูกลงโทษและยึดทรัพย์ 8.วางระบบรายงาน ติดตามเชิงรุก สามารถเห็นความคืบหน้า การขับเคลื่อนงาน ปัญหาอุปสรรคและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที โดยในส่วนกลางให้สำนักงาน ป.ป.ส. รับผิดชอบเรื่องนี้และเป็นศูนย์กลางในการบูรณาการฐานข้อมูลยาเสพติดแห่งชาติ 9.การสรุปองค์ความรู้ใหม่ ๆ ให้เป็น best practice เชื่อว่าการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดฯ จะสร้างนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหายาเสพติด 10.ขอให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดการออกอนุบัญญัติรองรับประมวลกฎหมายยาเสพติดที่ยังคงค้างอยู่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว 11.ขอให้เร่งรัดดำเนินงานตามข้อสั่งการเมื่อวันที่ 17 ก.ย.66 และรายงานผลอย่างต่อเนื่อง และ 12.สนับสนุนค่าตอบแทนเงินสินบนรางวัลคดียาเสพติดให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน

ทั้งนี้ นายกฯ ห่วงใยผู้ที่ติดยาเสพติดว่า นอกจากพวกเขาจะได้รับการดูแลและคืนสู่สังคมอย่างปลอดภัยแล้ว ก็ต้องหางาน หาอาชีพให้ผู้นั้นเพื่อกลับเข้าสู่สังคม ครอบครัวได้อย่างสมบูรณ์ ไม่กลับไปหาสิ่งเสพติดอีกด้วย

” โดยหลังจากการประชุม นายกฯได้โพสต์ Facebook : เศรษฐา ทวีสิน – Srettha Thavisin ถึงเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดว่า การประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ส. ครั้งแรกของรัฐบาลชุดนี้ ผมหวังว่า คณะกรรมการ ป.ป.ส.จะเป็นกลไกในการลดปัญหายาเสพติดครับ เพราะถือเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล โดยผมตั้งเป้าลดปัญหายาเสพติดให้ได้อย่างมีนัยยะภายในระยะเวลา 1 ปี ผมจึงได้ให้แนวทางการทำงานกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1.ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องจะต้องผนึกกำลังร่วมกันจริง ๆ ไม่แยกกันทำ ยึดเป้าหมายสูงสุดร่วมกัน คือ ลดความเดือดร้อนของประชาชนที่เกิดจากยาเสพติดให้ได้ 2.มาตรการเปลี่ยนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน แก้ไขปัญหาความรุนแรงด้านจิตเวชที่เกิดขึ้นจากยาเสพติด สร้างแรงจูงใจในการเข้าบำบัด พร้อมเตรียมขั้นตอนและทรัพยากรในการบำบัดให้เพียงพอ ทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ 3.ใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างจริงจัง ตัดวงจรการค้ายาเสพติด ควบคุมการลักลอบนําเข้า ยึดทรัพย์ผู้ค้า จัดการที่ต้นตอ ค้นหารอยต่อชายแดน และปราบปรามเพื่อตัดช่องทางการนำเข้ายาเสพติด พร้อมกับเจรจาการทูตกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสร้างความร่วมมือในลดการลักลอบนำเข้า 4.จัดการยาเสพติดด้วยกลไกระดับจังหวัด โดยขอให้จังหวัดเป็นผู้นํา เป็นเสมือน CEO จัดการแก้ไขปัญหาตัวเองเป็นหลัก ผมขอให้ดำเนินการแบบวัดผลได้ เป็นรูปธรรม 5.ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดให้มากขึ้น เพราะเป็นกฎหมายที่ปรับฐานคิดของการแก้ไขปัญหายาเสพติดใหม่ เร่งจัดทำประมวลกฎหมายให้เรียบร้อย เร่งสื่อสารกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ”.

ขอบคุณภาพ/ข่าว ประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์

Facebook Comments Box

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า