Getting your Trinity Audio player ready...
|
สยองทั้งแฟลต ตร.เมืองอุตรดิตถ์! ส.ต.ต.ผบ.หมู่ ป.สายตรวจ คิดสั้นปลิดชีพตัวเองด้วยอาวุธปืน 9 มม.คาห้องพัก แฟนสาวพยาบาล ส่งข้อความพร้อมโทรไลน์ไม่รับ สงสัยบุกถึงห้อง เจอนอนเสียชีวิตจมกองเลือด พบป่วยโรคซึมเศร้าสงสารเพื่อนที่ไม่ได้ทำงาน เคยคิดสั้นคว้าปืนมายิงแต่ถูกแย่งไว้ได้ “บ่นอยากฆ่าตัวตาย”
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 23 ธันวาคม 2566 ร.ต.อ.เลข เทียนมน รองสารวัตรเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตัวตาย เหตุเกิดที่ห้องพักแฟลตตำรวจ เลขที่ 13/143 ชั้นที่ 3 ถนนประชานิมิตร เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบและรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.พรวน คร้ามสมอ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ (หัวหน้าพนักงานสอสวน) เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ แพทย์เวรโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมวัดหมอนไม้
ที่เกิดเหตุภายในห้องพักห้องพักแฟลตตำรวจ เลขที่ 13/143 ชั้นที่ 3 เจ้าหน้าที่พบศพ ส.ต.ต.สิทธิพร โชติกวนิชย์ อายุ 26 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ (สายตรวจ) นอนเสียชีวิตกลางห้องนอน ลักษณะสภาพนอนหงายหน้ามองขึ้นบนเพดาน ในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีฟ้า นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ที่บริเวณศีรษะด้านขวามีเลือดไหลออกเป็นจำนวนมาก นอนทับผ้าเช็ดเท้าสีน้ำตาลอ่อน หัวศีรษะหันไปทางประตูทางเข้าห้อง ส่วนปลายเท้าหันไปทางห้องน้ำ ห่างจากศพเล็กน้อยเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนยี่ห้อ ซิกซาวเออ ขนาด 9 มม.ซึ่งเป็นอาวุธปืนหลวงหรือทางราชการตกอยู่ใกล้กับศีรษะด้านขวาของผู้ตาย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบปอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 ปอก ตกอยู่ใกล้กัน จึงเก็บวัตถุที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน จากการชันสูตรพลิกศพที่บริเวณศีรษะด้านขวาของผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่พบรูกระสุนปืน จำนวน 1 รู ทะลุออกด้านท้ายทอย หลังชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมวัดหมอนไม้ นำศพผู้เสียชีวิตไปผ่าพิสูจน์ศพที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ก่อนส่งมอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลศพต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตรับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 และพักอยู่ภายในห้องพักเพียงลำพังคนเดียว ต่อมาแฟนสาวซึ่งเป็นพยาบาลพักอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งได้โทรศัพท์ พร้อมส่งไลน์หาผู้ตายหลายครั้งแต่ผู้ตายไม่รับสาย รวมถึงไม่ตอบข้อความที่ทักไลน์ไป ด้วยความสงสัยจึงเดินทางมาหาที่ห้องพักแฟลตตำรวจด้วยตัวเอง เมื่อมาถึงเปิดประตูห้องพักพบว่าแฟนตัวเอง ได้ใช้อาวุธปืนของทางราชการปลิดชีวิตตัวเองจนเสียชีวิต จากนั้นจึงแจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ซึ่งผู้ตายมีประวัติป่วยเป็นโรคซึมเศร้า รักษาตัวที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ พบแพทย์ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ผู้ตายไม่มีปัญหาด้านการทำงานกับเพื่อนร่วมงานและครอบครัว ก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตเคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ถูกห้ามเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสันนิษฐานถึงสาเหตุเสียชีวิตครั้งนี้ เบื้องต้นเกิดการฆ่าตัวตายเองเพราะโรคซึมเศร้า แต่ต้องรอผลพิสูจน์จากแพทย์ก่อน
ด้าน คุณแอน เล่าวว่า ตนมีบ้านอยู่ในตัวเมืองอุตรดิตถ์ ลูกชายคนโตเป็นเพื่อนกับ ส.ต.ต.สิทธิพร (น้องนัฐ) ซึ่งมีบ้านอยู่ร้องกวาง จ.แพร่ ลูกชายเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากกับน้องนัฐ รู้จักกันมานานถึง 6 เดือน ทำให้ตนเองรักเหมือนลูกชายคนหนึ่ง ทางครอบครัวน้องนัฐได้ฝากฝังให้ช่วยดูแล ปกติคุยกันเกือบทุกวัน เคยไปนอนด้วยกันกับคุณแม่ของน้องนัฐ 2-3 วัน ที่ผ่านมาได้ไปติดประกาศหาแมวเพราะแมวหาย ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น รู้สึกช็อคและทำใจไม่ได้ ช่วงตอนทราบข่าวเป็นลมทันที น้องนัฐป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
คุณแอน เล่าอีกด้วยว่า เคยประสบกับน้องนัฐมา 2 เหตุการณ์ เมื่อหลายเดือนก่อนลูกชายคนโต แจ้งให้ทราบว่านัฐจะยิงตัวตายให้มาช่วยหน่อย ลูกชายได้นำอาวุธปืนมาเก็บเอาไว้ที่ตัวเอง อาวุธปืนที่นำมาเก็บเอาไว้นั้นเป็นอาวุธปืนหลวงหรือของทางราชการ จึงได้บอกกล่าวกับลูกชายไปว่า นำอาวุธปืนมาเก็บเอาไว้กับตัวเองไม่ได้นะ เพราะมันผิดกฎหมาย ให้นำไปฝากกับเพื่อนที่ร่วมงานก็ได้ โดยส่งข้อความแจ้งผ่านทางไลน์ จากนั้นไม่นานน้องนัฐก็บ่นอยากฆ่าตัวตาย ได้พยายามคุยกับน้องนัฐอย่าคิดสั้นฆ่าตัวตาย มีอะไรบอกแม่หรือมาคุยระบายความในใจให้ฟัง จะได้ช่วยหาทางออกให้
คุณแอน เล่าเพิ่มเติมว่า ซึ่งน้องนัฐได้แต่บ่นเรื่องเพื่อนของเขาที่ไม่ได้ทำงานว่า “สงสารเพื่อน” ซึ่งคนป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจิตใจมักจะอ่อนและใจดีเพราะรักเพื่อน จึงบอกไปว่า ให้รู้จักปล่อยวาง ชีวิตเพื่อนก็คือชีวิตเพื่อน ชีวิตนัฐก็คือชีวิตนัฐ จะเอามาเป็นภาระตัวเองไม่ได้ น้องนัฐพักอยู่ที่นี่เพียงลำพังคนเดียว โดยมีแฟนสาวอยู่ที่อุตรดิตถ์ น้องไม่เคยมีศัตรูที่ไหน เป็นคนที่น่ารักมาก เพื่อนร่วมงานรักน้องทุกคน น้องนัฐเป็นคนใช้ง่าย ใครไว้วานช่วยทำให้หมด ขนาดเราเป็นเพียงแม่เพื่อน ยังรักน้องเหมือนลูกเลย.