Getting your Trinity Audio player ready...
|
สุดยอด! ตำรวจอุตรดิตถ์ ใช้เวลา 31 ชั่วโมง ไม่ถึง 2 วัน “ปิดคดี ไอ้บาส พ่อโหด” ใช้มีดปาดข้อมือฆ่าลูกสาววัย 10 ขวบ รวบได้พื้นที่ท่าปลา สอบนานกว่า 3 ชั่วโมง ผกก.ไกรสิทธิ หวั่นผู้ต้องหา “เครียดคิดสั้น” ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย นอนเป็นเพื่อนเฝ้าผู้ต้องหาในห้องขังตลอดทั้งคืน
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพเด็กหญิงนภัส วัย 10 ขวบ เสียชีวิตอยู่ในห้องพักโรงแรมรีสอร์ทแห่งหนึ่งพื้นที่อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ สภาพศพที่บริเวณข้อมือด้านซ้ายถูกของมีคมบาดเป็นแผล จำนวน 1 แผล มีเลือดไหลเปอะเปื้อนผ้าห่มสีขาวจำนวนมาก ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบมีดปอกผลไม้ยาวประมาณ 1 คืบ วางอยู่ที่โต๊ะหัวเตียงภายในห้องพัก เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6-12 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่พบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและผลการสอบปากคำพนักงานให้การว่า ช่วงเวลาประมาณเวลา 22.30 น. ของคืนวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา นายสิทธานันท์ อายุ 25 ปี ชาวบ้านยางกะไดใต้ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ มาเปิดห้องพักที่โรงแรม โดยมาพร้อมกับเด็กหญิงนภัส วัย 10 ขวบ (ผู้เสียชีวิต) จากนั้นเช้าวันรุ่งขึ้นที่ 9 เมษายน เวลาประมาณ 10.00 น. นายสิทธานันท์ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากโรงแรมไปคนเดียว และทราบภายหลังว่า ทั้ง 2 คนเป็นพ่อลูกกัน
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานถึงการเสียชีวิตของเด็กหญิงนภัส วัย 10 ขวบครั้งนี้ว่า เกิดจากผู้เป็นพ่อลงมือฆ่าลูกสาวตัวเอง และทิ้งร่างลูกสาวเอาไว้ที่ห้องพักในโรงแรมรีสอร์ทดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบเพราะอะไร
ทาง พ.ต.อ.ไกรสิทธิ พรหมปฏิมา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันปรามปรามอาชญากรรมและเจ้าหน้าที่ชุดสายสืบสถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ เร่งออกสืบสวนหาข้อมูลติดตามเอาตัวนายสิทธานันท์ มาทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเด็กหญิงนภัส ผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุครั้งนี้
ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.พีรพล จำนงจิตร สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ ได้ขอให้ศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ออกหมายจับ นายสิทธานันท์หรืออนุสรณ์หรือบาส ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 กรณีมีหลักฐานตามสมควรว่า นายสิทธานันท์หรืออนุสรณ์หรือบาส ได้หรือน่าจะกระทำความผิดอาญา ซึ่งมีโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี, ได้หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า “จะหลบหนี” ซึ่งศาลได้อนุมัติออกหมายจับ นายสิทธานันท์หรืออนุสรณ์หรือบาส ในเวลาต่อมา
ล่าสุด เจ้าหน้าที่พบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของ “นายบาส” พื้นที่รอยต่อระหว่าง ตำบลด่านนาขาม อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์กับ ตำบลห้วยไร่ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ เพียงไม่กี่ชั่วโมงสัญญาณก็ขาดหายไปบริเวณปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งพื้นที่ตำบลด่านนาขาม ในช่วงบ่ายวันนี้
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรท่าปลา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบชายแปลกหน้าใบหน้าคล้ายกับคนร้ายที่ออกสื่อทางออนไลน์และสถานีโทรทัศน์ “พ่อฆ่าลูกสาววัย 10 ขวบแล้วหลบหนี” ขับขี่รถจักรยานยนต์ลักษณะและสีเดียวกัน กำลังขับขี่อยู่บริเวณหน้าร้านศารภัทรโฮม 999 ซึ่งเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง พื้นที่หมู่ 1 ตำบลท่าปลา อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ต.อ.ลิขิตพงศ์ ศรีนาราง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าปลา จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายสืบภูธรท่าปลา เข้าตรวจสอบพบเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ จึงนำตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรท่าปลา จากนั้นนำตัว “นายบาส” พร้อมรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ ส่งมอบให้กับ พ.ต.อ.ไกรสิทธิ พรหมปฏิมา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ เจ้าของพื้นที่เพื่อทำการสอบสวนเอาดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมายต่อไป โดยใช้เวลาในการไล่ล่าและตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ เพียง 31 ชั่วโมง นับตั้งแต่ที่พบศพเด็กหญิงนภัส ในช่วงเวลา 13.30 น.ของวันที่ 9 เมษายน 2567 ที่ห้องพักโรงแรมสีสอร์ท พื้นที่เมืองอุตรดิตถ์
โดย พ.ต.อ.สุเทพ ประภากรณ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไกรสิทธิ พรหมปฏิมา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ ร่วมสอบสวนผู้ต้องหาในคดีนี้ด้วยตนเองที่ห้องสอบสวนป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม สถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ โดยสอบสวนถึงประวัติส่วนตัว ประวัติครอบครัว ฐานะการเงินและหนี้สิน รวมถึงมูลเหตุผลที่ต้องปลิดชีวิตลูกต้องเองในครั้งนี้ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าฆ่าลูกตัวเองจริง เหตุเพราะเครียดเรื่องหนี้สิน เรื่องปัญหาครอบครัวและเรื่องอาการป่วยโรคซึมเศร้า ส่วนรายละเอียดเชิงลึกอยู่ในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการสอบสวนปากคำ นายสิทธานันท์ ผู้ต้องหาฆ่าลูกสาววัย 10 ขวบของตัวเองแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปไว้ที่ห้องขังสถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ เพื่อทำประวัติพร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนทำการควบคุมตัวอยู่ภายในห้องขัง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย เฝ้าอยู่เป็นเพื่อนตลอดทั้งคืน เนื่องจากหวั่นเจ้าตัวคิดฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิดในคดีนี้ จนกว่าจะนำตัวไปส่งมอบให้กับศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจท่านหนึ่ง กล่าวเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ฆ่าเด็กหญิงนภัส ลูกสาววัย 10 ขวบด้วยตัวเอง เนื่องจากเครียดจากปัญหาหนี้สินปัญหาส่วนตัวและปัญหาครอบครัว ประกอบกับป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เป็นห่วงลูกและห่วงคนที่บ้านต้องมาดูแลรับผิดชอบ จึงคิดอยากจบชีวิตตัวเองและลูก โดยหลอกล่อพาลูกสาวไปดูหนัง พาไปกินข้าวและพาไปเที่ยวจนเหนื่อยแล้ว จึงเปิดห้องพักโรงแรมรีสอร์ท โดยเตรียมมีดสั้นยาวขนาด 1 คืบเอาไว้ เมื่อลูกล้มตัวนอนด้วยความเหนื่อย จึงนำหมอนมากดทับที่ใบหน้าจนลูกหมดสติลงไป จากนั้นนำมีดที่เตรียมเอาไว้ปาดที่ข้อแขนมือข้างซ้ายแล้วนำผ้าห่มของโรงแรมรีสอร์ทมาห่มทับร่างเอาไว้
จนกระทั่งตอนเช้า จึงขี่รถจักรยายนต์ออกจากที่พักไปตามท้องถนนมุ่งหน้าเข้าพื้นที่ตำบลด่านนาขาม คิดอยากฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่ทำไม่ลงหรือใจไม่ถึงเพราะ “กลัวตาย” ด้วยความเครียด จึงได้ขว้างโทรศัพท์ทิ้งไว้ในป่าข้างใกล้กับปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งติดถนนสายเอเชีย อุตรดิตถ์-เด่นชัย จากนั้นขี่มอเตอร์ไซด์ไปเรื่อยมาถึงพื้นที่อำเภอท่าปลาช่วงค่ำ หาพื้นที่จอดรถแล้วปีนต้นไม้เพื่อกระโดดลงมา หวังจบชีวิตตัวเอง แต่ก็ไม่เป็นผลจนสำเร็จ เพราะต้นไม้เตี้ยแค่ตัวถลอก กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจท่าปลามาจับกุมตัวไปในที่สุด.