
Getting your Trinity Audio player ready...
|
อุตรดิตถ์ “สส.วารุจ” ร่วมเปิดศูนย์เอกซเรย์ คอมพิวเตอร์ CT SCAN แห่งที่ 3 นายแพทย์ ขจร สสจ.อุตรดิตถ์ เผยอีกก้าวสำคัญของการพัฒนาระบบบริการด้านสาธารณสุขในจังหวัด ช่วยเพิ่มศักยภาพการตรวจวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว ลดการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใหญ่
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 อาคารอุบัติเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลพิชัย อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ นายแพทย์ขจร วินัยพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์เอกซเรย์ คอมพิวเตอร์ CT SCAN แห่งที่ 3 จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้กับโรงพยาบาลพิชัย โดยมี พระราชวชิรากร เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ นายวารุจ ศิริวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เขต 2 พรรคเพื่อไทย แพทย์หญิงวาสนา วินัยพานิช ประธานแม่บ้านสาธารณสุข สาขาจังหวัดอุตรดิตถ์ นายนิตย์นิชัย บุญสุวรรณ นายอำเภอพิชัย นายแพทย์เศษฐวิชช์ ศิริวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิชัย พร้อมด้วยคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่บุคลากรโรงพยาบาล พ่อค้า ประชาชน ร่วมในพิธีเปิดศูนย์เอกซเรย์ คอมพิวเตอร์ CT SCAN แห่งที่ 3 จังหวัดอุตรดิตถ์ ครั้งนี้
นายแพทย์เศษฐวิชช์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิชัย กล่าวรายงานว่า โรงพยาบาลพิชัย เป็นโรงพยาบาลชุมชน ขนาด 60 เตียง ให้บริการประชาชนในเขตอำเภอพิชัยและพื้นที่ใกล้เคียง การพัฒนาศักยภาพด้านการตรวจวินิจฉัยโรคด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่กันสมัย จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องรวดเร็ว และลดการส่งต่อไปยังโรงยาบาลขนาดใหญ่เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือ CT Scan โรงพยาบาลพิชัย ที่ได้รับการสนับสนุนในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับคุณภาพการบริการทางการแพทย์ ทั้งด้านการวินิจฉัยโรคทางสมอง ช่องท้อง ทรวงอก กระดูก รวมถึงการประ เมินอุบัติเหตุและภาวะฉุกเฉินต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที่ทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้าน นายแพทย์ขจร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ศูนย์เอกชเรย์คอมพิวเตอร์ หรือ CT Scan โรงพยาบาลพิชัย นับเป็นศูนย์เอกชเรย์คอมพิวเตอร์ หรือ CT Scan แห่งที่ 3 ของจังหวัดอุตรดิตถ์ สำหรับโรงพยาลแห่งแรก คือโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ โรงพยาบาลแห่งที่สองโรงพยาบาลน้ำปาด ที่มีเครื่องเอกชเรย์คอมพิวเตอร์ หรือ CT Scan ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนาระบบบริการด้านสาธารณสุขในจังหวัดอุตรดิตถ์ การมีเครื่อง CT Scan ที่ทันสมัย จะช่วยเพิ่มศักยภาพการตรวจวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว ลดการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใหญ่ ทำให้ประชาชนในในอำเภอพิชัยและพื้นที่ใกล้เคียง เข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ขอชื่นชมและขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือผลักตันโคระการนี้ให้สำเร็จจุล่วงและหวังว่า ศูนย์แห่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป
“ นับเป็นความโชคดีของชาวอำเภอพิชัย และนับเป็นความโชคดีที่อำเภอพิชัย ได้นายแพทย์เศษฐวิชช์ ศิริวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิชัย คนใหม่เข้ามาบริหารงาน ที่จะเข้ามาดูแลพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับทิศทางขงอจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข เน้นให้ประชาชนเข้าถึงบริการการแพทย์ที่ทันสมัยได้อย่างรวดเร็ว กับการมีเครื่องมือทางการแพทย์ CT Scan
จำได้ว่าสมัยเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เครื่องมือ CT Scan มีแห่งเดียวในภาคเหนือตอนล่างที่จังหวัดพิษณุโลก ที่ทุกคนเรียกกันว่า “แยกเอกซเรย์” เนื่องจากมีเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แห่งแรกของภูมิภาค ตอนนั้นตนเป็นผู้อำนวยการอยู่โรงพยาบาลพิชัย จัดส่งคนไข้ไปตรวจสุขภาพที่นั้น การมีเครื่องเอกเรย์คอมพิวเตอร์จึงเป็นเรื่องดี กรณีอุบัติเหตุเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามารถได้แยกได้ว่า อาการของผู้ป่วยเป็นอย่งไร จะต้องส่งไปรักษาหรือว่ารักษาตัวอยู่ที่บ้าน สิ่งนี้ถือเป็นการพัฒนาการแพทย์ให้กับอำเภอพิชัยได้รับใช้ประชาชนในพื้นที่และใกล้เคียง” นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าว
จากนั้น นายแพทย์ขจร วินัยพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย นายวารุจ ศิริวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เขต 2 แพทย์หญิงวาสนา วินัยพานิช ประธานแม่บ้านสาธารณสุข สาขาจังหวัดอุตรดิตถ์ นายนิตย์นิชัย บุญสุวรรณ นายอำเภอพิชัย นายแพทย์เศษฐวิชช์ ศิริวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิชัย ร่วมตัดริบบิ้น เพื่อเปิดศูนย์เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ แห่งที่3 จังหวัดอุตรดิตถ์ และเข้าชมเครื่องมืออุปกรณ์การ แพทย์เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
พระราชวชิรากร เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ ทำพิธีจุลเจิมหน้าห้อง CT SCAN ด้วยการลงอักขระยันต์พร้อมปิดแผ่นทอง เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่คณะแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทำงานภายในห้องดังกล่าว รวมถึงห้องเอกซเรย์ ตึกอาคารอุบัติเหตุฉุกเฉิน ชั้น1 โรงพยาบาลพิชัย ด้วยเช่นกัน หลังเสร็จพิธีตัดริบบิ้นและจุลเจิมเรียบร้อยแล้ว พระราชวชิรากร เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ ประธานมูลนิธิพระสิวลี มอบถังออกซิเจน ขนาด 6 คิว จำนวน 21 ถัง มูลค่า 100,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่พ่อค้า ประชาชน ผู้มีจิตศรัทธานำถวาย และในนามคณะสงฆ์จังหวัดอุตรดิตถ์ มอบเตียงไฟฟ้า 3 กลไก จำนวน 2 เตียง มูลค่า 50,000 บาท มอบให้กับโรงพยาบาลพิชัย เพื่อให้ผู้ป่วยหรือคนไข้เข้าถึงอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อไป
ทั้งนี้ ก่อนพิธีเปิดศูนย์เอกซเรย์ คอมพิวเตอร์ CT SCAN แห่งที่ 3 จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้กับโรงพยาบาลพิชัย ที่ห้องประชุมชั้น2 โรงพยาบาลพิชัย พระราชวชิรากร เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ ประธานสงฆ์ได้ทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ โดยมีพระสงฆ์ 9 รูป ร่วมสวดชัยมงคลคาถา เพื่อความเป็นสิริมงคล นายแพทย์ขจร วินัยพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ นายวารุจ ศิริวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เขต 2 แพทย์หญิงวาสนา วินัยพานิช ประธานแม่บ้านสาธารณสุข สาขาจังหวัดอุตรดิตถ์ นายนิตย์นิชัย บุญสุวรรณ นายอำเภอพิชัย นายแพทย์เศษฐวิชช์ ศิริวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิชัย พร้อมแขกรวม 9 คน ร่วมถวายภัตตาหารปิ่นโต เครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ และกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญกุศลให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่ล่วงลับไปแล้ว โดย เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ นำน้ำพุทธมนต์ประพรมให้แก่ทุกคนที่เข้าร่วมในพิธี พร้อมเดินลงไปยังห้องฉุกเฉิน ชั้น1 เพื่อทำพิธีทำพิธีประพรมน้ำพุทธมนต์ ให้แก่เจ้าหน้าที่ พร้อมจุลเจิมหน้าห้องสังเกตุอาการผู้ป่วย ด้วยการลงอักขระยันต์พร้อมปิดแผ่นทอง เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่คณะแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทำงานภายในห้องดังกล่าวด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องเอกชเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) เป็นการตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายด้วยลำแสงเอกซ์ โดยฉายลำแสงเอกซ์ผ่านอวัยวะที่ต้องการตรวจในแนวตัดขวาง และให้คอมพิวเตอร์สร้างภาพ ภาพที่ได้จึงเป็นภาพตัดขวางส่วนที่ต้องการตรวจอย่างละเอียด โดยมีชัยบ่งชี้ เพื่อตรรจหาเบื้องอกในอวัยวะต่างๆ รวมทั้งตำแหน่ง ขนาดของเนื้องอก การแพร่กระจายของเนื้องอกไปยังต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้เคียง การคั่งของเลือดในสมอง ช่องท้องและอุ้งเชิงกราน ความผิดปกติของหลอดเลือด เช่นเส้นเลือดโป่งพอง เส้นเลือดอุดตัน รวมถึงความผิดปกติของกระดูก และข้อต่อต่างๆ เช่น การหัก การหลุดและการอักเสบ
นอกจากนี้ การตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องเอกชเรย์คอมพิวเตอร์ ยังจำเป็นต้องฉีดสารทึบรังสีชนิดที่มีไอโอดีนเป็นส่วนประกอบ (lodinated contrastmedia) เข้าทางหลอดเลือดดำด้วยเครื่องฉีดยาอัตโนมัติ (Automatic injector) เพื่อช่วยให้เห็นพยาธิสภาพของโรคชัดเจนขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจวินิจฉัยด้วยเอกซเรย์คอมพิว เตอร์ เนื่องจากเป็นเครื่องตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ตรวจอวัยวะผู้ป่วยที่มีความเร็วและประสิทธิภาพในการประมวลผลสูงมีโปรแกรมตรวจที่ทันสมัยและเป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัยโรคแก่ผู้ป่วย เครื่องสามารถจัดเก็บและเรียกดูภาพของงานด้านรังสีวิทยาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การตรวจสมองด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Computerized Tomography: CTan) คือการตรวจวินิจฉัยโรคด้วยเครื่องเอกชเรย์คอมพิวเตอร์ ซึ่งจะฉายรังสีเอกซเรย์ตามเวณที่ต้องการตรวจ แล้วใช้คอมพิวเตอร์สร้างเป็นภาพฉายลักษณะและอวัยวะภายในร่างกาย เพื่อนำมาประกอบการวินิจฉัยหาความผิดปกติของร่างกาย วิธีนี้แพทย์จะได้ภาพที่มีความละเอียดสูงกว่าการเอกซเรย์แบบธรรมดา และสามารถใช้ตรวจอวัยวะภายในร่างกายได้เกือบทุกส่วน ข้อดีของการทำ CT Scan มารถสแกนตรวจอวัยวะส่วนใหญ่ในร่างกายได้ ขณะเข้ารับการตรวจไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด ได้ภาพที่มีรายละเอียดสูงกว่าการทำอัลตร้าซาวด์ ช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยได้แม่นยำขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ยังใช้ช่วยในการวางแผนการรักษาตัดชิ้นเนื้อ หรือหัตถการทางกาแพทย์ อื่นๆได้ ในปัจจุบันยังไม่พบว่าการทำ CT Scaก ส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายในระยะยาวได้ และด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบัน โอกาสที่ผู้ป่วยจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งจากรังสีของ CT Scan มีน้อยมาก นอกจากระบบสมองแล้วปัจจุบันการตรวจ CT Scan ยังสามารถตรวจระบบอื่นๆได้ด้วย เช่นระบบช่องท้องและทรวงอก ระบบกระดูก กล้ามเนื้อ ข้อต่อและกระดูกสันหลัง ระบบหลอดเลือด โรคที่เกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ได้รับอุบัติเหตุ และการแพร่กระจายของโรคมะเร็ง
“ ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ปลอดภัย อยู่ในการควบคุมของแพทย์ เมื่อเริ่มทำ CT Scan ผู้ป่วยต้องนอนราบบนเตียงของเครื่องสแกน เครื่องจะเริ่มทำการสแกนด้วยการหมุนเพื่อฉายรังสีเอกชเรย์ไปรอบๆตัวผู้ป่วย ในระหว่างที่อยู่ในเครื่อง CT Scan ผู้ป่วยสามารถสื่อสารกับแพทย์และนักรังสีเทคนิคที่ดูแลการสแกนได้ ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 10-20 นาที โดยหลังจากทำ CT Scan ผู้ป่วยสามารถกลับบ้าน หรือทำกิจกรรมต่างๆได้ตามปกติ ยกเว้นผู้ที่ต้องใช้ยาระงับประสาทเพื่อคลายความกังวลก่อนเข้าเครื่องสแกน ซึ่งจะทำให้รู้สึกมึนงงหรือง่วงซึมได้ ดังนั้น จึงไม่ควรขับขี่ยานพาหนะด้วยตนเอง ”