|
Getting your Trinity Audio player ready...
|
พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 5 ประธานเปิดประชุม เจ้าอาวาสวัด รองเจ้าอาวาสวัดและรักษาการเจ้าอาวาส จังหวัดอุตรดิตถ์ ตามมติมหาเถระสมาคมฯ พระสังฆาธิการเขตปกครองร่วมรับฟัง 500 รูป ได้ความรู้ ความเข้าใจในการบริหารกิจการสงฆ์ กฏหมายสงฆ์ควรทราบ “การลงนิคหกรรม จริยาพระสังฆาธิการ การทำบัญชีการเงินและศนาวัตถุของวัด การบริหารกิจการคณะสงฆ์” พระราชวชิรากร เจ้าคณะจังหวัดฯ บรรยายการบริหารกิจการคณะสงฆ์ พร้อมสั่งการให้เจ้าคณะอำเภอ รองฯ เจ้าคณะตำบล เป็นภาระธุระ “ขอใช้ที่ดินป่าไม้ 2484 – ป่าสงวนแห่งชาติ 45 แห่ง” ที่ตกหล่นให้แล้วเสร็จ รวมถึงบทบาทเจ้าอาวาส มาตรา 37-38 ไม่ให้พระสงฆ์ในเขตปกครองละเมิดพระธรรมวินัย
เมื่อเร็วๆนี้ พระราชวชิรากร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวถึง การจัดการประชุมพระสังฆาธิการ ระดับเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาสและผู้ช่วยเจ้าอาวาส จังหวัดอุตรดิตถ์ ประจำปี 2568 จัดขึ้นตามมติมหาเถรสมาคม มติที่ 24343/1546 ครั้งที่ 8 /2546 ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค5 โดย พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 5 เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระอารามหลวง เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยดีงาม ในเขตปกครองของตน โดยยึดหลักการถวายความรู้ ให้ครอบคลุมงานปกครอง การศาสนศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่การสาธารณู ปการและการสาธารณสงเคราะห์ ตามมติข้อที่ 4 ว่า เจ้าคณะภาคร่วมกับเจ้าคณะจังหวัดจัดประชุม เจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาสและผู้ช่วยเจ้าอาวาส ปีละ 1 ครั้ง/ละ 1 วัน และเมื่อดำเนินการแล้วให้รายงานมหาเถระสมาคมทราบ โดยผ่าเจ้าคณะผู้ปกครองตามลำดับ เพื่อจะได้ประมวลเรื่องการกราบทูลสมเด็จพระสังฆราชทรงทราบ
พระราชวชิรากร เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า เจ้าคณะภาค 5 มีมติให้จัดประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 5 ทั้ง 4 จังหวัด จังหวัดละ 1 วันโดยกำหนดขึ้นระหว่างวันที่ 2-5 เดือนกันยายน 2568 ตรงกับวันขึ้น 10-13 ค่ำเดือน 10 เพื่อให้พระสังฆาธิการได้มีความรู้ ความเข้าใจในการบริหารกิจการสงฆ์และกฏหมายที่สงฆ์ควรทราบ ว่าด้วย “การลงนิคหกรรม” จริยาพระสังฆาธิการ การจัดทำบัญชีการเงินและศนาวัตถุของวัดและนโยบายการบริหารกิจการคณะสงฆ์ของแต่ละจังหวัดนั้นๆ ได้แก่จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดตาก จังหวัดสุโขทัยและจังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีเจ้าอาวาสวัด และรักษาการเจ้าอาวาสวัด รองเจ้าอาวาสวัด ผู้ช่วยเจ้าอาวาส จำนวน 335 วัด รวมพระสังฆาธิการเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ประมาณ 500 รูป
พระราชวชิรากร เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวด้วยว่า พระพรหมวัชรธีราจารย์ รองเจ้าคณะภาค 5 บรรยายเรื่อง การจัดการเรียนการสอนของคณะสงฆ์และกฏหมายพระสงฆ์, พระมหามงคล กตปุญฺโญ รองเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าอาวาสวัดธรรมาธิปไตย บรรยายเรื่อง จริยาพระสังฆาธิการ, และ นายสมชาติ สะดา นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ บรรยายเรื่อง การจัดทำบัญชีการเงินและศาสนวัตถุของวัด การขอใช้พื้นที่ป่า 2484 เพื่อประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ เร่งรัดตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2568 และยื่ยผ่อนผันภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568
“ ทั้งนี้ อาตมา ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ บรรยายเรื่อง นโยบายการบริหารกิจการคณะสงฆ์จังหวัดอุตรดิตถ์ สั่งการ 3 คำสั่งคือ ให้เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ ที่ได้รับมอบหมายรองเจ้าคณะตำบล ช่วยกันเป็นภาระธุระเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน ที่ป่าไม้ ที่จะต้องปฏิบัติให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมที่ผ่าน แล้วมีผลต่อเนื่องที่ยังไม่แล้วเสร็จให้ดำเนินการต่อ บัญชีรายชื่อวัด/ที่พักสงฆ์ ยื่นผ่อนผันภายในเขตป่าสงวนฯ กรณีตกหล่นได้ยื่นขอใช้พื้นที่แก้ไขข้อมูลเพิ่มเติม จำนวน 36 วัด/ที่พักสงฆ์ 9 อำเภอ ประกอบด้วย
พื้นที่อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ วัดเด่นกระต่าย, ที่พักสงฆ์น้ำผุร้อน, สถานที่ปฏิบัติธรรมอริยะบารมี นานาชาติ, พื้นที่อำเภอตรอน วัดศรีพุทธโคดม, พื้นที่อำเภอทองแสนขัน วัดพลอยสังวรนิรันดร์, พื้นที่อำเภอพิชัย ที่พักสงฆ์เขาบันไดม้า, ที่พักสงฆฺเขาเหล็ก, สำนักปฏิบัติธรรมป่าพุทธพรหมปัญโญ, พุทธสถานอนุสาวรีย์คู่บารมี, พื้นที่อำเภอท่าปลา วัดน้ำพร้า, วัดห้วยต้าเหนือ, ที่พักสงฆ์สีเสียด, ที่พักสงฆ์กิ่วเคียน, วัดน้ำปึง, วัดประชาธรรม, วัดท่าแฝก, พื้นที่อำเภอน้ำปาด ที่พักสงฆ์บ้านห้วยโป่ง, วัดแสงธรรมรัตน์ (วัดงอมสัก), วัดป่ากั้ง, วัดงอมถ้ำ, ที่พักสงฆ์โพนทัน, วัดห้วยคอม, วัดห้วยเนียม, ที่พักสงฆ์บ้านเพีย, วัดโพนสว่าง, วัดต้นขนุน, ศูนย์ปฏิบัติธรรมแม่ชี, ที่พักสงฆ์วัดป่าโป่งปุ้น, ที่พักสงฆ์ห้วยร้ำพร้าสามัคคีธรรม, ที่พักสงฆ์วิปัสสนาภูสอบดาวหรือวัดมณีแก้ว, วัดสักใหญ่เทพนิมิต, ที่พักสงฆ์ศรีสะอาดคลองตรอน, วัดน้ำไคร้, พื้นที่อำเภอฟากท่า วัดนาหน่ำ, วัดโพนชัย, และ พื้นที่อำเภอบ้านโคก ที่พักสงฆ์น้ำแพ
สำหรับวัด/ที่พักสงฆ์ ยื่นขอใช้พื้นที่ป่า 2484 เร่งรัดตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2568 จำนวน 9 วัด ประกอบด้วย พื้นที่อำเภอท่าปลา วัดท่าเรือวนาราม, พื้นที่อำเภอลับแล วัดศรีอุทุมพรคณารักษ์, วัดม่อนพัฒนาราม, วัดร่มโพธิญาณ, พื้นที่อำเภอพิชัย วัดฟากบึง, พื้นที่อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ วัดน้ำวังหลวง, พื้นที่อำเภอทองแสนขัน ที่พักสงฆ์ รัตนวนารีนาราม, อุทยานวิปัสสนากรรมฐานทมมุนี, และ พื้นที่อำเภอน้ำปาด ที่พักสงฆ์บ่อทองวราราม ” พระราชวชิรากร เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าว
พระราชวชิรากร เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้กำชับเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล ผู้ดูแลที่พักสงฆ์ ให้เป็นธุระในการจัดทำเอกสาร เตรียมเอกสาร รายละเอียดพื้นที่ขอบเขตวัด ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ จัดทำเอกสารให้ครบถ้วนตามคำขอใช้ที่ดินกับกรมป่าไม้ เพื่อให้รับการอนุญาตการขอใช้พื้นที่ได้ถูกต้องตามกฏหมาย ไม่ถูกขับไล่หรือให้ออกจากพื้นที่ภายหลัง
พระราชวชิรากร เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ต้องขออนุโมทนาขอบคุณ ขอบใจกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต.ที่อยู่ในความรับผิดชอบช่วยเป็นภาระธุระ ในที่นี้เพื่อเป็นบุญกุศล อย่างน้อยวัดใด อนุเคราะห์สงเคราะห์ให้มีที่ดินที่ถูกต้องตามกฏหมายแล้ว สามารถที่จะยกวัดให้เป็น วัดในทางพระพุทธศาสนา ขอนุญาตสร้างวัดเพื่อเป็นสมบัติของพระพุทธศาสนาและเป็นสมบัติของชาติต่อไป จึงขอความอนุเคราะห์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ให้เป็นธุระสอดส่องดูแลอำนวยความสะดวกในครั้งนี้ด้วย
“ ในที่ประชุมได้แจ้งบอกไปแล้วว่า เจ้าอาวาสก็ดี หรือพระสังฆาธิการอยู่ในบริเวณใกล้เคียงช่วยสนับสนุน โดยเฉพาะเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอและผู้ดูแลที่พักสงฆ์ ให้เป็นภาระธุระว่า อันใดขาดตกบกพร่องช่วยนำเสนอ ช่วยชี้ ช่วยแนะ ช่วยนำ ช่วยเป็นภาระให้หน่อย เพื่อให้การดำเนินเรื่องที่ดินวัด/ที่พักสงฆ์ได้รวดเร็วทันใจ งานจะได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ พระมหามงคล รองเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าอาวาสวัดธรรมาธิปไตย ตรวจตราว่า วัดไหนตกหล่น ที่ตกหล่นก็เป็นที่ประจักแล้วว่ามีทั้งหมดกี่แห่ง ส่วนที่ตกหล่นนี้หากผ่านพ้นไปแล้วมันจะลำบากต่อเมื่อภายหลัง เมื่อทางกรมป่าไม้ให้โอกาสลงทะเบียนไว้หรือขึ้นทะเบียนไว้ จะได้ช่วยกันทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ที่ดิน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ในส่วนของวัดทุกภาคส่วนต้องร่วมช่วยกันแบบนี้ เพื่อให้งานสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ” เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าว
เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับอีกวาระหนึ่งที่พระสังฆาธิการจะพึงรู้บทบาทหน้าที่ของเจ้าอาวาส มาตราที่ 37-38 คืออำนาจหน้าที่เราควรทำอย่างไร ต้องสอดส่องดูแลไม่ให้พระภิกษุสงฆ์ในเขตปกครองดูแลในวัดของตนละเมิดพระธรรมวินัย ดังนั้นการประชุมจึงมีประโยชน์อย่างประมาณหาค่ามิได้ ที่พระสงฆ์ทั้งหลายที่รับภาระหน้าที่เป๋นพระสังฆาธิการ ต้องทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ การปฎิบัติหน้าที่สมบูรณ์แล้ว ข้อขาดตกบกพร่องก็จะไม่เกิดขึ้น ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับวัดกับคณะสงฆ์ ก็จะไม่เป็นที่ปรากฏแก่คนทั้งหลาย ดังนั้นการประชุมพระสังฆาธิกาที่ผ่านมานี้ จึงถือได้ว่าเป็นภาระหน้าที่ของพระสังฆาธิการรับภาระบทบาทหน้าที่ของตน เพื่อให้งานนั้นสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี.
