
Getting your Trinity Audio player ready...
|
ส่องเลขรถยนต์ “ แพทองธาร ” ช่วยน้ำท่วมอุตรดิตถ์ คอหวยและผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่างจับตามอง หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมทองแสนขัน รับฟังเสียงสะท้อน น้ำท่วมหมดเลยไม่เหลืออะไรเลย เห็นใจจริงๆ แต่ถึงไม่เหลืออะไร ยังเหลือกำลังใจกันและกันที่จะช่วยเหลือ สั่งสส.พื้นที่ติดตามการช่วยเหลือผ่านสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะสส.เขต พร้อมมอบถุงยังชีพให้การช่วยเหลือและถ่ายภาพร่วมกับชาวบ้านเสมือนญาติพี่น้องอย่างอบอุ่น อุตรดิตถ์ น้ำท่วม 7 อำเภอ 42 ตำบล 280 หมู่บ้าน 10,733 ครัวเรือน เสียชีวิต 8 ราย สูญหาย 1 ราย บ้านพังทั้งหลัง 111 หลังคาเรือน
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 พร้อมคณะ นั่งรถยนต์มินิแวน ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด (Toyota Alphard) สีขาว หมายเลขทะเบียน กษ – 444 พิษณุโลก ซึ่งเป็นรถมินิแวนหรูที่ได้รับความนิยม และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย บรรดาคอหวยในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์และผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่างจับตามองกันเป็นจำนวนมากว่า อดีตนายกรัฐมนตรี จะนั่งรถหมายเลขทะเบียนอะไร เพื่อนำไปเสี่ยงโชค งวดประจำวันที่ 16 ตุลาคม 2568 ระหว่างลงพื้นที่เยี่ยมชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะชาวบ้านวังปรากฏ หมู่ ที่ 1 ตำบลป่าคาย อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากฤทธิ์พายุฝนบัวลอย ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 1 หมู่ 2 และ หมู่ 9 โดยถูกน้ำท่วมมิดหลังคา รวม 180 หลังคาเรือน โดยมี สส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ทั้ง 3 เขต และสส.บัญชีรายชื่อ ให้การต้อนรับ อาทิ นายวารุจ ศิริวัฒน์ สส.อุตรดิตถ์ เขต 2 เจ้าของพื้นที่ นายรวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ เขต 3 นางสาวกฤษณา สีหลักษณ์ สส.อุตรดิตถ์ เขต 1 และ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย สส.บัญชีรายชื่อ
ทั้งนี้ นางกุลตนาช บุญไทย กำนันตำบลป่าคาย เล่าเหตุการณ์ถึงน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ว่า น้ำป่าไหลมาพร้อมกับดินโคลน และไหลมาเร็วมาก ทั้งที่ได้รับการแจ้งเตือนแต่ก็ไม่ทันได้ตั้งตัว พร้อมพา นางสาวแพทองธาร อดีตนายกรัฐมนตรี เยี่ยมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ใกล้เคียงกันอยู่ระหว่างทำความสะอาด จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมาว่า ได้รับผลกระทบจากท่วมน้ำครั้งนี้ บอกด้วยว่าถูกน้ำท่วมมิดหลังคา แต่น้ำมาเร็วไปเร็วท่วมแบบไม่ทันตั้งตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะลงพื้นที่ศาลาการเปรียญวัดคีรีวงกฎ ตำบลป่าคาย เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับราษฎร หมู่ 1 หมู่ 2 และ หมู่ 9 จำนวน 180 ครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสรวงศ์ เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ สส.พรรคเพื่อไทย หลายจังหวัดลงพื้นที่สมทบกับคณะของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นกำลังใจให้กับหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในการลงพื้นที่เยี่ยมราษฎรที่ประสบอุทกภัยครั้งนี้
นางสาวแพทองธาร กล่าวกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมว่า รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเจอกับพี่น้องประชาชนอีกครั้ง หลังจากพ้นจากตำแหน่งนายกฯ รู้สึกอบอุ่นเสมอทุกครั้งที่ได้มาลงพื้นที่ เป็นความรู้สึกที่ได้รับตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่งนายกฯ
“ การได้มาเจอพี่น้องทุกครั้ง จะได้รับกำลังใจจากพี่น้องประชาชนทุกครั้ง เมื่อสักครู่ได้ลงตามพื้นที่ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน หมดเลยไม่เหลืออะไรเลย เห็นใจจริงๆ แต่ถึงไม่เหลืออะไร ยังเหลือกำลังใจกันและกันที่จะช่วยเหลือ จะคอยช่วยเหลือผ่าน สส. เพื่อให้เร่งเรื่องการช่วยเหลือ ทั้งการสนับสนุนเยียวยาโดยเร็ว และจะเป็นอีกแรงหนึ่ง ที่จะช่วยผลักดันผ่าน สส. ทุกคนค่ะ พื้นที่นี้ผ่าน สส.วารุจ ศิริวัฒน์ ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพใจก็ให้แข็งแรง ช่วงนี้อาจจะหนักหน่อยแต่ก็ขอให้กำลังใจทุกท่าน ”
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นางสาวแพทองธาร ได้ร่วมนั่งล้อมวงพูดคุยสนทนากับกับชาวบ้านวังปรากฏอย่างเป็นกันเอง เพื่อสอบถามถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ชาวบ้านต่างเล่าให้ฟังถึงความเสียหายโดยเฉพาะพื้นที่ทำการเกษตรที่ถูกน้ำท่วม อดีตนายกฯ โดย นางสาวกฤษณา สส.อุตรดิตถ์ ได้กล่าวว่าจะช่วยกันผลักดันเรื่องการเยียวยาพื้นที่เกษตรที่ได้รับน้ำท่วมโดยผ่านกระบวนการรัฐสภาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จังหวัดอุตรดิตถ์ได้รับผลกระทบจากพายุบัวลอย ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับผลกระทบน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ ประกอบด้วย ทองแสนขัน, น้ำปาด, ตรอน, พิชัย, ท่าปลา, ลับแล และอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย 42 ตำบล 280 หมู่บ้าน 10,733 ครัวเรือน ถนน 26 สายพังและชำรุดเสียหาย สะพาน 11 แห่งไม่สามารถใช้การได้ โรงเรียน 29 แห่ง จากน้ำป่าไหลหลากครั้งนี้ทำให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายพังทั้งหลัง 111 หลังคาเรือน มีผู้เสียชีวิต 8 ราย สูญหาย 1 ราย พื้นที่การเกษตรอยู่ระหว่างการสำรวจ
สำหรับด้านการการให้ความช่วยเหลือผู้เสียชีวิตจากสาธารณภัยจะได้รับ 1.เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน เป็นค่าจัดการศพผู้เสียชีวิต รายละไม่เกิน 29,700 บาท และถ้าเป็นผู้หารายได้เลี้ยงดูครอบครัวได้อีก 29,700 บาท เบื้องต้น อปท ช่วยเหลือเป็นลำดับแรก 2.กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นค่าจัดการศพรายละ 50,000 บาท เงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตครอบครัวละ 30,000 บาท เงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มีบุตรอายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์อีกครอบครัวละ 50,000 บาท.