Image4 1
Getting your Trinity Audio player ready...

อุตรดิตถ์ “รองผู้ว่าฯ นพฤทธิ์”  เค้น! สอบเจ้าหนี้และแก๊งทวงหนี้นอกระบบ “ยายสมัย” พบเป็นคนต่างถิ่น มีลูกหนี้อีกกว่า 30 ราย ติดต่อผ่านนามบัตร ใช้หนี้โอนผ่าน “แอพพลิเคชั่น” ค้างหนี้เหลือ 8,000 คนทวงหนี้ไม่เคยเจอผู้เสียชีวิต พบกู้หนี้ 2 เจ้า ในจังหวัดและต่างจังหวัด เจ้าหน้าที่เร่งล่าอีก 1 จากคลิปสุดหล่อ พบที่อยู่พร้อมเบอร์โทรศัพท์ทุกคนแล้ว จังหวัดลงทะเบียนแล้ว 508 ราย เจ้าหนี้ 300 ราย วงเงินหนี้ทะลุกว่า 20 ล้านบาท จ่อ! ดำเนินคดี เจ้าหนี้และคนทวง ตามพรบ.ทวงหนี้ และ พรบ.เงินกู้

Image9Image4 2 Image6 1

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 66 ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรวังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ นายนพฤทธิ์  ศิริโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ประธานสอบปากคำ หญิงวัยกลางคน เจ้าหนี้ปล่อยกู้ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งพื้นที่อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ และ นายชนทัต  อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดอุทัยธานี หนึ่งในผู้ทวงถามหนี้นอกระบบหรือแก๊งทวงหนี้ หลังเกิดเหตุนางสมัย อายุ  63 ปี จ.อุตรดิตถ์ เดินทางไปร้องขอความช่วยเหลือจาก “สายไหมต้องรอด” ที่กรุงเทพมหานครฯ กรณีเป็นหนี้นอกระบบ จนถูกเจ้าหนี้ทวงตามไม่หยุด ต้องจ่ายดอกสูงวันละ 3,000 บาท จนเป็นเหตุให้นายทรัพย์ สามีของนางสมัย แอบไปผูกคอตาย เพื่อเอาชีวิตของตัวเองแลกกับเงินฌาปนกิจมาให้นางสมัย ได้นำเงินไปจ่ายหนี้ เมื่อหักค่าทำศพพร้อมจ่ายหนี้ก็ยังไม่หมด ถูกทวงหนี้อ้างค้างค่าดอกเบี้ยหลายวัน แถมขู่ยายด้วยว่า หากไม่เอาเงินมาใช้หนี้ ก็เตรียมตัวตายตามตาไป จะได้มีเงินมาใช้หนี้ หมดหนทาง จึงตัดสินใจเดินทางมาขอความช่วยเหลือ “สายไหมต้องรอด” จนกลายเป็นข่าวดังออกมา

โดยมีนายประเดิม เดชายนต์บัญชา นายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์​ พ.ต.อ.รวิกร อุกฤษฎ์มโนรถ​ ผกก.สภ.วังกะพี้​ และพนักงานสอบ​สวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ปกครองร่วมสอบปากคำเบื้องต้น นายชนทัต ชาวจังหวัดอุทัยธานี หนึ่งในผู้ทวงถามหนี้นอกระบบหรือแก๊งทวงหนี้ให้การว่า ไม่ได้เป็นผู้ปล่อยกู้แต่เป็นผู้มาทวงหนี้ให้กับผู้ปล่อยกู้ เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ได้ประมาณ 1 ปี มาเช่าบ้านอยู่ในตัวเมืองอุตรดิตถ์ อาศัยอยู่ด้วยกัน 3-4 คน มีลูกหนี้ทั้งหมดกว่า 30 ราย ทั้งในพื้นที่อุตรดิตถ์และสุโขทัย ที่ต้องติดตามทวงหนี้ ด้วยการแบ่งสายกันเก็บเงินและดอกเบี้ยจากลูกหนี้ตามที่ได้รับมอบหมาย

ลูกหนี้รายนี้ ติดต่อกันผ่านนามบัตรที่แจกไปให้ จากนั้นมีการติดต่อกู้ยืมเงินผ่านการโอน มีหนี้คงค้างเหลือประมาณ 8,000 บาท เคยไปหาที่บ้านแต่ไม่เคยเจอนายทรัพย์ สามีของนายสมัย ที่เสียชีวิตไปแล้ว มีแต่นางสมัยเป็นผู้โอนเงินให้  น้องสาวผู้กู้ก็เป็นลูกค้าด้วย คุยกันตามปกติ แม้จะเอาโทร ทัศน์มาให้ แต่ก็คืนกลับไป

Image7 2Image10Image2 Image5 1Image1

นายนพฤทธิ์  กล่าวว่า ปกครองจังหวัดอุตรดิตถ์พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว โดยสอบถามข้อมูลจากน้องยาย ผู้ใหญ่บ้าน ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายทรัพย์สามีของนางสมัย ได้ผูกคอตายจริงเป็นไปตามคดีไม่พบข้อมูลปรากฏเกี่ยวกับเรื่องทวงหนี้หรือเป็นหนี้เป็นสิน ทำให้ทางจังหวัดและตำรวจไม่ทราบข้อมูลในส่วนนี้

นายนพฤทธิ์  กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ทางราชการเปิดระบบให้มีการลงทะเบียนหนี้นอกระบบตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม และคิกออฟตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคมเป็นต้นมา วันที่นายทรัพย์เสียชีวิตตรงกับวันที่ 23 พฤศจิกายน ยังไม่มีการเปิดให้ลงทะเบียน นางสมัยภรรยาผู้เสียชีวิต ได้ลงทะเบียนหนี้นอกระบบ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ระบุว่ามีเจ้าหน้านอกระบบ 2 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเรียกเจ้าหนี้มาทำการเจรจาไกล่เกลี่ยเนื่องจากติดวันหยุดราชการหลายวัน

กระทั่งวันนี้ นางสมัยได้ไปร้องกับทาง “สายไหมต้องรอด” ทางจังหวัดและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยยังไม่ได้สอบนางสมัยเนื่องจากอยู่กรุงเทพ ได้แต่พูดคุยสอบถามน้องสาวของนางสมัย พร้อมติดตามหาพยานฝ่ายเจ้าหนี้ (ผู้ทวงหนี้นอกระบบ) แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ เจ้าหนี้หรือเจ้าของเงินผู้ปล่อยกู้ อาจจะตามค่อนข้างยาก กับส่วนที่สอง ผู้ทวงถามหนี้นอกระบบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตัวมา 2 คน คนแรกเป็นเจ้าของปล่อยเงินกู้ในหมู่บ้าน กับตัวผู้มีพฤติกรรมทวงถามหนี้หรือแก๊งทวงหนี้นอกระบบ เป็นนายทุนอยู่ต่างจังหวัด ตอนนี้อยู่ในระหว่างการสอบปากคำเพื่อขยายผลว่า “นางสมัยเป็นหนี้เท่าไหร่ ใช้ไปแล้วไหร่ คงเหลือเท่าไหร่ รวมถึงวิธีการทวงถามหนี้ด้วย”

นายนพฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับส่วนที่เป็นคลิปชื่อ “สุดหล่อ” ในข่าวนั้น จะเป็นอีก 1 ราย ซึ่งยังไม่สามารถติดตามได้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ที่อยู่พร้อมเบอร์โทรศัพท์หมดทุกคนแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี นับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา จังหวัดอุตรดิตถ์เปิดโอกาสให้ลูกหนี้มาลงทะเบียน โดยมีลูกหนี้มาลงทะเบียนผ่านระบบแอพพลิเคชั่นและลงทะเบียนด้วยตนเอง รวมทั้งสิ้น 508 ราย มีเจ้าหนี้ประมาณ 300 ราย วงเงินหนี้รวมแล้วประมาณกว่า 20 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการติดตามแก้ไขปัญหา หลังเกิดเหตุนางสมัย อายุ  63 ปี จ.อุตรดิตถ์ เดินทางไปร้องขอความช่วยเหลือจาก “สายไหมต้องรอด” ที่กรุงเทพมหานครฯนั้น ทางจังหวัดอุตรดิตถ์ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมสอบถามข้อมูลจากน้องสาวของนางสมัยและผู้ใหญ่บ้าน และได้มีการติดตามเจ้าหนี้เป็นหญิง 1 ราย พร้อมคนทวงหนี้เป็นชาย 1 ราย มาทำการสอบปากคำ พร้อมแถลงข่าวเบื้องต้นร่วมกับมท. ปกครองและตำรวจ ส่วนในวันพรุ้งนี้หลังจากนางสมัยกลับจากกรุงเทพ เจ้าหน้าที่จะนัดนางสมัยมาทำการสอบปากคำทันที

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการขยายผลติดตามเจ้าหนี้ คนทวงหนี้ รายที่เหลือมาทำการสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามพรบ.ทวงหนี้ พรบ.เงินกู้แก่เจ้าหนี้และคนทวงหนี้นอกระบบ ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย โดยปกครองจังหวัดและอำเภอ จะดำเนินการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ให้กับลูกหนี้ทั้ง 508  ราย กับเจ้าหนี้ 300 ราย วงเงินหนี้กว่า 20 ล้านบาท ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยและรัฐบาล โดยการนำของ นายเศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรี.

Facebook Comments Box

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า